Turning บทที่ 9
“ยูเดอร์!
ยูเดอร์! รอสักครู่”
ยูเดอร์หยุดตามเสียงของเธอ
ขณะที่เขากำลังจะหลีกหนีจากชั้นเรียนอ่านเขียนที่น่าเบื่อ
แคนนาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ปรับตัวเข้ากับหน่วยทหารม้าในปัจจุบันได้ดีกว่าใครๆ
ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะรักษาความสัมพันธ์ข้ามิตรกับทุกคนในกลุ่มสมาชิกหน่วยทหารม้า
ซึ่งมีความหลากหลายทั้งในด้านสถานะทางสังคม อายุ เพศ
และแม้แต่สถานที่กำเนิดของพวกเขา
แม้ว่าจะไม่มีความสามารถทางกายภาพที่โดดเด่นในพลังพิเศษของเธอ
แต่ความจริงที่ว่าเธอไม่เคยบ่นในระหว่างการฝึกฝนอันแสนทรหดก็เพียงพอที่จะชนะใจใครหลายๆ
คนได้
ราวกับว่าการแสดงออกที่แสนตึงเครียดและแข็งกร้าวของเธอเมื่อพบกันครั้งแรกเป็นเรื่องโกหก
แคนนา ในฐานะสมาชิกของหน่วยทหารม้าได้รับการยกย่องว่าเป็นคนเข้าสังคมได้และมีความสามารถ
แคนนาไม่เคยลืมความความช่วยเหลือของยูเดอร์
ที่ช่วยให้เธอผ่านการสอบเข้าหน่วยทหารม้า
แม้ว่าพวกเขาจะแทบไม่มีโอกาสได้พบกันเนื่องจากตารางการฝึกซ้อมที่แตกต่างกัน
แต่พวกเขาก็มักจะทักทายอย่างอบอุ่นทุกครั้งที่เจอกัน
ต้องขอบเจ้าแคนนาและคาเคนที่เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับคำแนะนำของยูเดอร์เกี่ยวกับการทดสอบหน่วยทหารม้า
ราวกับว่ามันเป็นประสบการณ์ลึกลับ
ยูเดอร์จึงได้รับความสนใจอย่างเป็นมิตรจากเพื่อนร่วมงานมากกว่าแต่ก่อน
มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกสำหรับเขา
ที่เคยอยู่คนเดียวในหมู่ผู้ปลุกพลังตอนที่มีพลังเท่ากัน เนื่องจากส่วนใหญ่รู้สึกว่าเขาเป็นคนเงียบๆ
และมืนมน
"โอ๊ย มันยากมากที่จะมองเห็นใบหน้าของเจ้า"
แคนนาหอบขณะเรียกยูเดอร์
"เกิดอะไรขึ้น?"
“อ้อ
ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่สงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าที่เจ้ายังไม่ได้เลือกสายเลย”
ยูเดอร์มองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าของแคนนา
และพยักหน้าเล็กน้อย
"มันเป็นความจริง"
“มีเหตุผลอะไรไหม?
ผู้บังคับบัญชาอยากรู้เรื่องนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
ยูเดอร์ ก็ชงักครู่หนึ่ง
“ผู้บัญชาการ?”
เหตุใดชื่อของ
คีเซียร์ ลา ออร์ จึงถูกกล่าวถึงที่นี่? ยูเดอร์เอียงศีรษะ หันหน้ามาแล้วถามกลับ ในนั้นมีอารมณ์อันละเอียดอ่อนที่แคนนาไม่สามารถรับรู้ได้
“ข้าไปที่ห้องบัญชาการก่อนหน้านี้กับโจดี้เพื่อรายงานการเลือกสายของเรา
ท่านหัวหน้าถามข้าว่ารู้ไหมว่าเจ้าจะเลือกสายไหน”
"…"
“จริงๆ
ข้าคิดว่าเจ้าจะเลือกหลักสูตรของเจ้าตั้งแต่วันแรก มีอะไรกังวลไหม หากเจ้าต้องการคำแนะนำ
เจ้าสามารถบอกข้าได้ ข้ามั่นใจในการอ่านข้อมูล ดังนั้น หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือ
ข้าจะช่วยนะ"
แคนนาใช้ความสามารถของเธอช่วยเพื่อนสมาชิกในหน่วยเป็นครั้งคราว
ความสามารถของเธอในการอ่านข้อมูลของวัตถุมีประโยชน์กับคนจำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจ
มันเหมือนกับการทำนายดวงชะตา
ช่วยให้ผู้คนค้นพบสิ่งที่พวกเขาลืม หรือทำให้พวกเขาตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ด้วยตนเอง
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายๆ
คนอยากจะเห็นมันด้วยตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะต้องจ่ายเงินก็ตาม ทุกอย่างเป็นไปตามที่ยูเดอร์คาดไว้
"ไม่ ข้าสบายดี"
อย่างไรก็ตาม
ยูเดอร์ไม่มีเหตุผลที่จะขอความช่วยเหลือจากเธอ ยังไงก็ไม่ใช่สำหรับเขา
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือรักษาทรัพยากรมนุษย์อันมีค่า ที่เขาเคยลืมและผ่านมันไป
'อย่างไรก็ตาม...
ความตั้งใจของชายคนนั้นทำให้ข้ากังวล….'
ยูเดอร์
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดปากไปทางแคนนา
“เขาได้พูดอะไรนอกเหนือจากนั้นมั้ย?”
“อะไรหรือ?”
แคนนาดูเหมือนจะนึกถึงความทรงจำของเธอได้ครู่หนึ่ง
จากนั้นก็ส่ายหัว
“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะ”
"เข้าใจแล้ว"
“บางทีท่านหัวหน้าอาจคิดว่าข้าเป็นคนที่คุยกับเจ้ามากที่สุด
และแค่ถามโดยไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ยังไงซะ เจ้าก็ต้องตัดสินใจภายในวันพรุ่งนี้เท่านั้น
ดังนั้นอย่ารู้สึกกดดันไป”
แม้ว่าแคนนาจะพูดแบบนั้น
แต่ยูเดอร์กลับไม่คิดอย่างนั้น เธอไม่รู้ว่า คีเซียร์ ลา ออร์ เป็นคนแบบไหน
สมาชิกส่วนใหญ่มีศรัทธาและความรักอย่างสุดซึ้งต่อคีเซียร์
ซึ่งรับการฝึกฝนอย่างหนักร่วมกับพวกเขาและแสดงทัศนคติที่ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ยุติธรรมเท่าที่พวกเขาคิด แต่หากพวกเขารู้...
ยูเดอร์ขมวดคิ้วขณะที่เขานึกถึงความทรงจำหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับชายคนนั้น
ความทรงจำส่วนใหญ่เกี่ยวกับอีกฝ่ายไม่ค่อยน่าพอใจนัก
'แต่คนที่ข้าต้องช่วยและพามาอยู่เคียงข้างข้าก่อนใคร
ก็ยังเป็นผู้ชายคนนั้น'
แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ยูเดอร์เคยฆ่าในอดีต
แต่คราวนี้มันแตกต่างออกไป เขายังมีชีวิตอยู่และจะไม่ตายในอนาคต ไม่เพียงเท่านั้น
ยูเดอร์ยังต้องแน่ใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่และยังคงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารม้าต่อไป
เพราะยูเดอร์จะทำเช่นนั้น
ยูเดอร์ตกลงใจ
ขณะที่เขาก้มหัวเล็กน้อยให้แคนนาเพื่อแสดงความขอบคุณ ใบหน้าของเธอแสดงเป็นนัยๆ
ว่าอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้
“เอ่อ
พูดถึงเรื่องนั้น...”
"อืม?"
ขณะที่เขามองเธอราวกับจะถามว่าเธอมีอะไรจะพูดอีกไหม
แคนนาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ผู้บังคับบัญชาคิดว่าเจ้าและข้าสนิทกัน
แต่ก็ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย เจ้ายังพูดสุภาพกับข้าอยู่เลยนี่? ทั้งที่เจ้าพูดสบายๆกับคาเคนและเพื่อนร่วมห้อง
แล้วทำไมเจ้าถึงใช้ภาษาที่เป็นทางการกับข้าล่ะ?!”
คำพูดที่ไม่คาดคิดของเธอ
ทำให้ยูเดอร์ตัวแข็งไปชั่วขณะ ตั้งแต่ชาติที่แล้วจนถึงปัจจุบัน นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนถามแบบนี้กับเขา
ทำไมเขาถึงใช้ภาษาที่เป็นกันเองกับบางคนและใช้ภาษาที่เป็นทางการกับคนอื่น? เรื่องนั้น...
“เจ้าพูดสุภาพก่อน
ดังนั้นข้าจึงทำเหมือนกัน”
“เอ่อ
ยังนั้นเหรอ?”
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ยูเดอร์มักจะสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนได้แย่มาโดยตลอด
บางทีอาจเป็นเพราะว่าเขาอาศัยอยู่ตามลำพังบนภูเขามาหลายปี
เหตุผลที่เขาสามารถเป็นผู้นำกลุ่มได้เกือบสิบปี
ก็คือทหารม้าเป็นองค์กรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ส่งเสริมผู้คนโดยพิจารณาจากจุดแข็งหรือจุดอ่อน
ของความสามารถของพวกเขาเพียงอย่างเดียว
“จริงๆ
แล้วข้ากังวลเรื่องนี้มากเลยอยากรู้เหตุผล แต่ถ้าเป็นเพราะเหตุผลนั้น ข้าจะพูดเป็นกันเองกับเจ้าตั้งแต่ตอนนี้
โอเคมั้ย? สุดท้ายแล้ว สมาชิกก็มักจะใช้ภาษาสบายๆ
โดยไม่คำนึงถึง สถานะของพวกเขา”
"ทำตามที่ต้องการเถอะ"
ขณะที่ยูเดอร์ตอบช้าๆ
สีหน้าของแคนนาก็สดใสขึ้น
“เยี่ยมเลย
ข้าควรถามตั้งแต่ก่อนหน้านี้ รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ แล้วเจอกันนะ!”
ยูเดอร์
หันหน้าไปมองแคนนาที่วิ่งหายไป
เขานึกไม่ถึงว่าวันต่อๆมา
สมาชิกทหารม้าหลายคนที่ไม่รู้จะเข้าหาพูดคุยกับเขายังไง จะเริ่มพูดคุยเป็นกันเองมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของแคนนา
ในตอนนั้น
ในใจยูเดอร์มีเพียงความคิดเดียว คือทันทีที่งานของวันนั้นจบลง เขาจะไปยังที่ที่ คีเซียร์
ลา ออร์ พักอยู่และแจ้งการตัดสินใจของตนเอง
การฝึกทหารม้าสิ้นสุดลงเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ยูเดอร์ก็สามารถสลัดคาเคนที่เกาะติดเขาออกไป และมุ่งหน้าไปที่ชั้นบนของอาคารหอพัก
หลังจากปีนบันไดเวียนที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดหลายชั้น
ในที่สุดเขาก็มาถึงชั้นที่ห้า ที่นั่นมีประตูโบราณสีขาวปรากฏขึ้น
โดยมีหัวสิงโตสีทองเป็นที่เคาะประตู มันเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ สิงโตที่กลืนแสง
ยูเดอร์หยุดครู่หนึ่งเมื่อเขาเห็นที่เคาะประตู
เขารู้สึกถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาด ครั้งหนึ่งเขาสามารถเข้าไปในห้องของตัวเองผ่านประตูนี้
หลังจากที่
คีเซียร์ ลา ออร์ มอบตำแหน่งผู้นำกองทหารม้าให้กับ ยูเดอร์ แล้ว
เขาก็ใช้โครงสร้างเดิมของห้องโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ
ไม่เหมือนกับ คีเซียร์ ที่ใช้ทั้งพื้นเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวที่เหมาะสมกับสถานะที่สูงส่งของเขา
ยูเดอร์ ได้เปลี่ยนพื้นที่ที่เหลือ ยกเว้นห้องนอนขนาดเล็ก ให้เป็นสถานที่เพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะได้
ผู้คนรู้สึกขนลุกที่เขาสามารถใช้พื้นที่ของอดีตผู้บัญชาการ
ซึ่งมีข่าวลือว่าเขาเป็นคนสังหารได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แต่สำหรับยูเดอร์
นี่เป็นสถานที่เดียวที่เขาสามารถหายใจได้โดยไม่ต้องกังวลสายตาของผู้อื่น
รู้สึกราวกับว่า
ห้องที่เขาใช้มาเกือบสิบปีจะปรากฏขึ้นทันทีที่เขาเปิดประตูนั้น
มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่ก็แปลกประหลาดมาก
ยูเดอร์ระงับอารมณ์ของเขาและเอื้อมมือไปเคาะประตู
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะเคาะ ประตูก็เปิดจากด้านใน เผยให้เห็นชายร่างสูงคนหนึ่ง
"…อืม?"
"…"
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังจะไปที่ไหนสักแห่ง
คีเซียร์ สวมชุดเรียบง่ายและมีเสื้อคลุมยาวคลุมตัว
เบิกตากว้างขึ้นชั่วครู่ก่อนที่สีหน้าจะกลับสู่สภาพปกติ
อาจเป็นเพราะพวกเขาเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
ยูเดอร์จึงรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะคิดว่าเขาได้เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการมาเยือนแล้วก็ตาม
นับตั้งแต่เขาย้อนอดีตกลับมา
นี่เป็นครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับ คีเซียร์ อย่างเหมาะสม
และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกันตามลำพังด้วย
ในระหว่างการทดสอบทหารม้า
คีเซียร์ได้ใช้คาถาแปลงร่างกับใบหน้าของเขา ทำให้ยูเดอร์สามารถควบคุมอารมณ์ได้ หลังจากนั้น
ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวล เพราะพวกเขาแทบจะไม่ได้เจอกันเลย เมื่ออยู่สมาชิกทหารม้า 300 นาย
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป
หรือนี่จะเป็นความรู้สึกของการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด ที่รอเขาอยู่ในตรอกทางตัน โดยไม่มีหนทางให้หลบหนีรึเปล่า?
ยูเดอร์เงยหน้าขึ้นมองคีเซียร์
แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ในที่สุดหัวใจที่เต้นแรงของเขาก็สงบลงเล็กน้อย
แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีความคิดใดๆ
แต่ความอึดอัดและความรู้สึกที่ไม่จำเป็นยังบุกรุกอย่างต่อเนื่องจากความทรงจำอันแข็งแกร่งในอดีต
ยูเดอร์รู้จักคีเชียร์
ลา ออร์ ในความเป็นจริงไม่ถึงสองปี อย่างไรก็ตาม
การดำรงอยู่ของเขาได้ทิ้งร่องรอยอันทรงพลังและลบไม่ออกให้กับชีวิตของยูเดอร์