Turning บทที่ 7
(ตั้งแต่ตอนนี้
จะเปลี่ยนสรรพนาม เจ้า ข้า เพื่อเข้ากับเซ็ตติ้งชนชั้น)
เมื่อบรรยากาศค่อนข้างผ่อนคลาย
ทุกคนก็เรียงแถวกันตามธรรมชาติ ยูเดอร์สังเกตเห็นผมสีแดงโดดเด่นซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก นั้นคือคาเคน
อีกฝ่ายไม่ได้สังเกตเห็นยูเดอร์เลย
แต่มันก็น่าตลกเล็กน้อยที่เห็นอีกฝ่ายมองไปรอบ ๆ
ตลอดเวลาราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
“ผู้บังคับบัญชากำลังเข้ามา
ทุกคนยืนตรง”
ท่ามกลางเสียงดังอื่ออึง
ในที่สุด ก็มีใครบางคนยืนอยู่บนแท่นที่เตรียมไว้หน้าสนามฝึกซ้อม อัศวินสองสามคนติดตามเขาเข้ามาราวกับกำลังคุ้มกันเขา
แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยืนอยู่บนชานชาลา
ชายร่างสูงผมสีบลอนด์แวววาว
ดวงตาสีแดง และเครื่องแบบสีขาวดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
เพียงการปรากฏตัวของเขาเพียงลำพังก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งรอบตัวสูญเสียแสงสว่างไป
"ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน ข้าคือดยุกเปเลต้า คีเซียร์ ลา ออร์"
นั่นคือใบหน้าที่แท้จริงของ
คีเซียร์ ลา ออร์ โดยไม่ใช้เวทมนตร์แปลงร่าง ชายผู้ดำรงอยู่เสมือนดวงอาทิตย์นั่นเอง
สมาชิกทั้ง
330 คนของกองทหารม้าและอัศวินของจักรวรรดิไม่สามารถละสายตาไปจากคีเซียร์ได้
เขามองไปรอบ ๆ นิ่ง ๆ ราวกับยืนยันว่าทุกคนกำลังมองเขาอยู่
ยูเดอร์เห็นดวงตาสีแดงของเขาสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อสบตากัน
แต่เขาไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ
“อย่างที่เจ้าเห็น
ข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของราชวงศ์ที่เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งแสงและเป็นดยุคในเวลาเดียวกัน
แต่นั่นสำคัญสำหรับเจ้าหรือเปล่า ...ไม่ มันไม่ได้มีความหมายอะไรที่นี่”
เสียงแผ่วเบาของคีเซียร์
ดังก้องไปทั่วพื้นที่ ชวนให้รู้สึกหลงใหล
“ในที่แห่งนี่
ข้าเป็นเพียงคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นด้วยพลังของศิลาสีชาด เช่นเดียวกับพวกเจ้าทุกคน และที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน
เพียงเพราะว่ารู้จักฝ่าบาทดีกว่าพวกเจ้าเพียงเล็กน้อย
จิตวิญญาณของทหารม้ามีไว้เพื่อ ความมั่นคงและอำนาจของจักรวรรดิ รวมถึงอิสรภาพของพวกเจ้าเอง
นั่นควรจะเพียงพอแล้ว พวกเจ้าอาจไม่เข้าใจความหมายในตอนนี้ แต่ข้าหวังว่า ทุกคนจะตระหนักได้สักวันหนึ่ง”
"..."
ทุกคนต่างนิ่งเงียบกับคำประกาศของเขา
ซึ่งน่าตกตะลึงมากกว่าจะรุนแรง ไม่ได้ยินแม้แต่ลมหายใจ
"ขอจบคำปราศรัยครั้งแรกไว้เท่านี้แล้ว เจ้าจะอาศัยอยู่ในสถานที่ของอัศวินหลวงชั่วคราว
จนกว่าการก่อสร้างอาคารพิเศษของกองทหารม้าจะเสร็จสมบูรณ์ หากมีคำถามใด ๆ ก็มาที่สำนักงานผู้บัญชาการทหารม้า
ได้ทุกเมื่อ"
“เอาล่ะ
เลิกแถวได้”
“ทั้งหมด
ทำความเคารพ!”
จากหนึ่งในอัศวินของจักรพรรดิก็ตะโกน
ทุกคนไม่สามารถซ่อนความสับสนได้ สมาชิกใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ จึงไม่มีวิธีทักทายที่เหมาะสม
ต่างก็ทักทายกันแบบของตัวเอง อัศวินมองดูด้วยสีหน้ารังเกียจ ถอนหายใจด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
คีเซียร์
ลา ออร์ เป็นคนเดียวที่ยิ้มอยู่ที่นั่น
“ผู้บังคับบัญชาเหรอ?
เขาค่อนข้างแปลกดีนะ”
หลังจากพิธีเปิดงานที่น่าตกใจ
สมาชิกทหารม้าถูกนำทางไปยังอาคารที่พักชั่วคราว
พวกเขาแบ่งออกเป็นกลุ่มละสี่คนตามเพศ พักห้องเดียวกัน
พวกเขาได้รับคำอธิบายที่คลุมเครือว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้
จนกว่าการแบ่งงานภายในกองทหารม้าจะเสร็จสิ้น แต่ก็ไม่มีใครบ่น
นั่นเป็นเพราะคำปราศรัยครั้งแรกของคีเซียร์
สร้างความตกตะลึงมาก
และความอยากรู้อยากเห็น ในการพบปะคนที่มีความสามารถแบบเดียวกันเป็นครั้งแรกในชีวิตก็มีมากมาย
“ยูเดอร์!
ข้ารู้ว่าเจ้าจะผ่าน!”
ในที่สุดยูเดอร์ก็เห็นคาเคนที่เป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่
วิ่งมาหาเขาราวกับลูกหมาที่ได้พบเจ้าของแล้ว
“ข้าก็ผ่านเหมือนกัน
แล้วแคนนาก็ผ่านเหมือนกัน เจ้าเห็นเธอหรือยัง?”
ความสามารถในการผูกมิตรของคาเคนช่างน่าทึ้ง
เมื่อยูเดอร์ส่ายหัว คาเคนก็ตบหลังเขาอย่างมีความสุข
และบอกว่าเขาจะได้ทักทายเธอเร็วๆ นี้
“น่าแปลกใจที่เราทั้งสามคนผ่านไปได้
ต้องขอบใจคำอวยพรของเจ้านะ เจ้าพักอยู่ห้องไหน?”
"อืม..."
ยูเดอร์เหลือบมองกระดาษในมือของเขา
ที่พักของเขาอยู่ที่ห้อง 36 ชั้นสาม
เมื่อเห็นสิ่งนี้ คาเคนก็ส่งเสียงเชียร์เล็กน้อย
“เราอยู่ห้องเดียวกัน!
ข้าสงสัยว่าอีกสองคนคือใคร?”
“อืม
เราจะรู้เมื่อไปถึงที่นั่น”
ยูเดอร์ไม่สนใจว่าเขาพักร่วมห้องกับใคร
แต่คาเคนดูเหมือนจะรู้สึกแตกต่างออกไป เขาไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นของตัวเองได้ เพราะไม่เคยแชร์ห้องกับใครแบบนี้มาก่อน
“รู้สึกเหมือนได้เป็นอัศวินจริงๆ
อยู่ด้วยกัน ฝึกฝนด้วยกัน ฟังดูไม่น่าสนุกเหรอ?”
"…"
'สนุกนะเหรอ...'
ยูเดอร์นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในความทรงจำของเขา
คือประมาณหนึ่งเดือนหลังจากที่เขาเข้าร่วมทหารม้าครั้งแรก เขาถูกฝึกจนเกือบตาย
ย้อนกลับไปตอนนั้น พวกเขายังไม่ได้พัฒนาวิธีการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐานสำหรับความสามารถแต่ละคน
คีเซียร์พับแขนเสื้อขึ้นและทดลองกับทหารเกณฑ์ยุคแรกๆ
เพื่อสร้างระบบ ด้วยเหตุนี้ การรับสมัครรอบถัดไป องค์กรทหารม้าจึงมีโครงสร้างขึ้นมาแล้ว
คราวนี้อาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก
แม้ว่ายูเดอร์จะเคยอยู่ในตำแหน่งของคีเซียร์ แต่เขาไม่สามารถคิดถึงวิธีใดที่ดีไปกว่านี้ในการสร้างระบบกองทหารม้า
ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ได้
เขาจะคอยดูว่าคาเคนยังสามารถบอกว่าสนุกหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ได้ไหม
การกลับไปสู่อดีตไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
แต่เรื่องที่ต้องผ่านการฝึกฝนที่เลวร้ายอีกครั้งนั้นไม่น่าพอใจเท่าไร สุดท้ายแล้ว
ยูเดอร์รู้ดีที่สุดว่าจะพัฒนาความสามารถของตัวเองอย่างไร ซึ่งแทบไม่มีวิธีการทางกายภาพใด
ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่เขาไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้คีเซียร์เข้าใจได้
จึงได้แต่อดทน
ยูเดอร์ถอนหายใจเมื่อมาถึงห้องของพวกเขา
และพบว่าชายสองคนที่พักร่วมกันมาถึงแล้ว
“เจ้าสองคนเป็นเพื่อนร่วมห้องของเราเหรอ?”
ชายร่างผอมตกกระถามอย่างกังวล
ชื่อของเขาคือฮวน ความสามารถของเขาทำให้เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
“ข้าชื่อฮวน
และคนที่อยู่ตรงนั้นคือคูร์กา”
ยูเดอร์
มองไปที่ คูร์กาซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างไร้ยางอาย
เขาดูเหมือนหมีมากกว่ามนุษย์
ในความเป็นจริง
ความสามารถของเขาคือการขยายร่างกายของเขาและเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขาให้สูงสุด
ดังนั้นรูปลักษณ์ของเขาจึงเหมาะสมแล้ว
แม้ว่ายูเดอร์จะเห็นทั้งคู่เดินผ่านและจำใบหน้าได้
แต่พวกเขาก็ไม่มีบทสนทนาใดๆเลย เนื่องจากมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ระหว่างยูเดอร์ซึ่งกลายมาเป็นผู้นำอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าร่วมกองทหารม้าได้ไม่นานกับผู้ปลุกพลังธรรมดาๆ
ในอดีต
ยูเดอร์ไม่มีเวลาว่างที่จะสนใจคนอื่นที่มีความสามารถน้อยกว่า ความสนใจของยูเดอร์นั้นอยู่ที่การแข็งแกร่งขึ้น
เพื่อปกป้องตัวเองมาโดยตลอด และเนื่องจากสัญญาณแปลก ๆ ปรากฏขึ้นในโลก
เขาจึงเปลี่ยนความสนใจไปที่การค้นหาและหยุดสาเหตุพวกนั้น
แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป
เขาได้เรียนรู้จากความตาย ว่าเขาไม่สามารถแก้ปัญหาได้โดยลำพัง
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะขยายความสนใจของเขาไปยังคนรอบข้าง และจะไม่เป็นผู้นำของทหารม้าอีกต่อไป
"ข้าชื่อคาเคน นี่คือยูเดอร์ ข้าสามารถเรียกเงาของข้าออกมาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
และสำหรับเขา... ลองคิดดูแล้ว ยูเดอร์ ข้ายังไม่รู้เลยว่าความสามารถของเจ้าคืออะไร"
ในที่สุด
ยูเดอร์ก็จำพลังที่มีประโยชน์ของคาเคน วอลุนบัลท์ที่เขาเคยนึกถึงมาก่อนได้
'อืม
เขาสามารถเรียกร่างแยกออกมาผ่านเงาของเขาได้ และใช้มันเพื่อการสื่อสารหรือการต่อสู้'
“ข้าสามารถคลุมดาบของข้าด้วยไฟและน้ำได้”
“ไฟและน้ำ?
ทั้งสองอย่าง?”
"สุดยอดเลย"
คนอื่นๆ
เบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดของยูเดอร์ พวกเขาอาจจะแปลกใจมากขึ้นถ้ารู้ว่าเขามีความสามารถมากกว่านี้
แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผยสิ่งนั้น
“เอาล่ะ
เรามาจัดห้องกันเถอะ”
“ใช่
ข้าก็เหมือนกัน”
หลังจากทักทายกันแล้วพวกเขาก็แบ่งเตียงและพื้นที่ใช้สอย
หลายคนคาดหวังว่าจะอยู่เป็นกลุ่มก่อนที่จะเข้าร่วมกองทหารม้า
ดังนั้นจึงไม่มีความขัดแย้ง
'มันคงจะเป็นเหมือนความฝันที่เป็นจริงสำหรับคนธรรมดาสามัญ'
หากไม่รวมคาเคน
อีกสามคนที่จะเข้าพักในห้องนี้ล้วนแต่เป็นสามัญชนไม่มีนามสกุล สำหรับพวกเขา
คงเป็นประสบการณ์ที่ไม่คุ้นเคยอย่างแน่นอนที่ได้อาศัยอยู่ในห้องกว้างขวางที่มีสี่เตียง
เครื่องนอนที่สะอาด และอาหารจัดให้
'แต่พวกเขาจะคุ้นเคยกับมันในไม่ช้า'
ประสบการณ์ครั้งที่สองของยูเดอร์
ในกองทหารม้าจึงเริ่มต้นขึ้น
จากสมาชิกทหารม้า
330 คน มีมากกว่า 200 คนที่ไม่มีนามสกุล
ซึ่งหมายความว่า
มากกว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขาไม่มีการศึกษา ก่อนที่ศิลาสีชาดจะตกลงมา
พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะอยู่ร่วมกับผู้ที่มีนามสกุล
แต่ตอนนี้ชะตากรรมของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
สิ่งอำนวยความสะดวก
การฝึกอบรมที่มีเพียงอัศวินหลวงเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
ตอนนี้ทั้งหมดถูกครอบครองโดยทหารม้า ทุกวันมีการระเบิดของไฟและอุปกรณ์แตกหักที่สนามฝึกซ้อม
แต่ไม่มีใครพบว่ามันแปลก มันเป็นเรื่องปกติเมื่อผู้มีพลังอยู่รวมตัวกัน
ผู้บัญชาการคีเซียร์
สั่งให้สมาชิกทหารม้าเข้ารับการฝึกร่างกาย
ทำความคุ้นเคยกับพลังของพวกเขา พัฒนาความสามารถส่วนบุคคล และศึกษาอ่านเขียนไปพร้อม
ๆ กัน
มันเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
แต่เมื่อรู้ว่ามันเป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนจึงเคลื่อนไหวตามตารางการฝึก ด้วยทัศนคติแบบดับเครื่องชน
ผลก็คือ
หลังจากผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ สมาชิกกองทหารม้าก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง ด้วยความเร็วอันน่าประหลาดใจ
แน่นอนว่าไม่มีใครตามทันยูเดอร์ที่ทำทุกอย่างเป็นครั้งที่สองได้