(สปอย์) เมื่อผมเป็นเจ้าของคฤหาสน์สยองขวัญ เล่ม 8
ฟ่านอวี้ (เด็กชายที่เห็นและวาดรูปผี) กับเจียงหลิง (เด็กสาวจากหมู่บ้านโลงเป็นที่มีผีสาวเป็นพี่) ได้หายตัวไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เฉินเกอ (พระเอก) ที่อาศัยคำใบ้จากภาพวาดที่ฟ่านอวี้ทิ้งไว้ จึงทำให้เขามุ่งหน้าไปตามหาเด็กทั้ง 2 ที่หมู่บ้านโลงเป็น ทำให้เขาได้ยินเรื่องราวของหญิงสาวท้องแก่ที่ตายกลายเป็นผีอาฆาตอาภรณ์แดงพร้อมทั้งลูกในท้องและแก้แค้นผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ และได้เผชิญหน้ากับสมาคมเล่าเรื่องพิศวงที่บุกเข้ามายังหมู่บ้านนี้ เพื่อวางแผนช่วงชิงประตูสู่อีกโลกของผีสาว
หมายเลขสิบที่น่าจะเป็นนายกสมาคมเล่าเรื่องพิศวงได้เรียกสยงชิง (ผู้ป่วยในอาคารผู้ป่วยตึก 3) ที่เสียชีวิตไปได้กลายเป็นอาภรณ์แดงออกมาหมายจัดการเฉินเกอ แต่เฉินเกอในยามนี้ที่ทั้งจางหย่า (ผีอาฆาตอาภรณ์แดง) สวี่ยิน (ผีอาฆาตที่โดนหญิงสาวที่รักหั่นเป็นชิ้น) กำลังหลับไหลอยู่ จึงไม่มีทางรับมือกับอาภรณ์แดงได้ แต่ยังโชคดีที่เขาได้เหยียนต้าเหนียน (ผีอาฆาตที่เป็นเพียงรองอาภรณ์แดง) ช่วยเหลือทำให้รอดจากสยงชิงได้
และในเวลาเดียวกันหมอเฉินก็ได้มายังหมู่บ้านโลงเป็นเข้าต่อสู้กับหมายเลขสิบ เฉินเกอจึงฉวยโอกาสพายังฟ่านอวี้และเจียงหลิงหลบหนีทันที แต่ก็ยังมีคนชุดดำ (คนของสมาคมเล่าเรื่องพิศวง) ตามล่าพวกเขา แต่ในระหว่างหลบหนีคนชุดดำ เจียงหลิงได้นำพาเฉินเกอและฟ่านอวี้ไปยังบ้านหลังหนึ่ง ก้าวเข้าไปในประตูสู่โลกอีกใบนึงซึ่งเป็นโลกแห่งความเครียดแค้นของผีสาวท้องแก่ (ผีอาฆาตอาภรณ์แดง)
จึงทำให้เฉินเกอทราบว่า "ผีสาวท้องแก่สิงอยู่ในร่างของเจียงหลิง" ผีสาวได้ให้เฉินเกอช่วยถ่วงเวลาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดมากมายในโลกนั้นที่พุ่งเข้ามา ส่วนเธอในร่างเจียงหลิงได้เข้าไปนอนในโลง พอคนชุดดำตามมาถึง เฉินเกอได้แต่ใช้เหยียนต้าเหนียนถ่วงเวลาและป๋ายหู่ (แมวขาว) พุ่งเข้าไปชิงขวดในมือคนชุดดำมา ทั้งป๋ายหู่ยังกินสิ่งที่อยู่ภายในขวดไปสร้างความโกรธแค้นให้กับคนชุดดำคิดที่จะสังหารเฉินเกอ
แต่ยังดีที่ผีสาวออกมาจากโลงพอดีได้จัดการกับคนชุดดำแล้วเอาเสื้อของคนชุดดำไป เฉินเกอจึงเดาว่า "คนชุดดำน่าจะเป็นอู๋เฟย (คนของสมาคมเล่าเรื่องพิศวงที่เคยสิงร่างนายตำรวจให้กระโดดตึกตาย)" ก่อนที่ผีสาวยังบอกให้เฉินเกอพาเด็กทั้ง 2ไปจากหมู่บ้านนี้ เพราะหมู่บ้านนี้จะโดนปิดแล้ว ผีสาวยังบอกอีกว่า "เธอติดค้างกะโหลกหนังศีรษะเจียงหลิงชิ้นหนึ่ง"
พอเฉินเกอออกไปจากประตูก็ได้พบยังหญิงแซ่จูที่ได้รับบาดเจ็บ และได้ทราบจากหญิงแซ่จูว่าจริงๆแล้วย่าของเธอตายไปตั้งนานแล้ว (คนที่เขาพบน่าจะเป็นผี) เฉินเกอจึงรีบพาเด็กทั้ง 2 ออกจากหมู่บ้านทันที แต่ในระหว่างทางกับได้ยินเสียงปืนนัดนึงจึงรีบวิ่งเข้าไปหาได้พบกับลุงป๋าย (คนนำทาง) และผู้หมวดอู๋ที่พาเด็กทารกหลบหนีออกมาจากหมู่บ้านก่อน
พอทุกคนกลับมาถึงผู้หมวดอู๋กับจำเรื่องในหมู่บ้านไม่ได้ ทั้งหายังหมู่บ้านโลงเป็นไม่พบ ทางตำรวจได้ปิดคดีลักพาตัวฟ่านอวี้และเจียงหลิงเป็นฝีมือคุณหมอเฉินที่หายตัวไป ส่วนเฉินเกอที่เคลียร์ภารกิจอยู่รอดจนถึงเช้าในหมู่บ้านโลงเป็นสำเร็จก็ได้รับรางวัลเป็นผีอาภรณ์แดงชนิดพิเศษ "ชุดวิวาห์ของซิ่วเหนียง" กับปลดล็อคฉากหมู่บ้านโลงเป็น แต่พอเฉินเกอกลับถึงคฤหาสน์สยองขวัญ เขากับได้รับการติดต่อจากเฮ่อซาน (นักศึกษาคณะแพทย์มหาลัยจิ่วเจียง) ว่า "เกาหรูเสวี่ย (ลูกสาวคุณหมอเกา) กำลังมีปัญหา" เขาจึงโทรหาเกาหรูเสวี่ยทันที
เกาหรูเสวี่ยได้เล่าว่า "เพื่อนร่วมห้องของเธอ 2 คนได้ออกไปจากห้องพักตอนกลางคืนเพื่อค้นหารูปปั้นอะไรบางอย่าง แล้วพอกลับมาทำให้เธอรู้สึกว่า "คนที่กลับมาไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องทั้ง 2 คนของเธอ" แถมเธอยังรู้สึกว่า "มีคนที่ 3 กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วย" เฉินเกอจึงได้นัดจะไปพบเกาหรูเสวี่ยที่มหาลัยตอนดึกหลังเลิกงาน
ในระหว่างเปิดคฤหาสน์สยองขวัญ เฉินเกอได้รับฉากใหม่คือหมู่บ้านโลงเป็น ได้มีมาวเจี่ยที่เป็น VJ รีวิวบ้านผีสิงและเป็นคู่แข่งกับเยี่ยเสี่ยวซิน (คนที่เคยรีวิวบ้านผีสิงของเฉินเกอแล้วให้คะแนนดี) ได้มาเล่นพร้อมกับคนติดตามรวม 5 คน แต่อีกฝ่ายติว่าคนน้อยไป เฉินเกอจึงหาทั้งท่องเที่ยวมาเพิ่มให้อีก 3 คนรวมเป็น 8 คน
ปรากฏว่า "พวกมาวเจี่ยกับโดนผีหลอกจนสลบไป" เพราะนักท่องเที่ยวอีก 3 คนที่เพิ่มมากับเป็นผีของเฉินเกอที่ปลอมตัวมา ทำเอาเฉินเกอไม่ต้องลงมืออะไรก็สามารถจัดการยังพวกมาวเจี่ยได้หมด แถม 1 ในนั้นยังมีคนของสวนสนุกแห่งโลกอนาคตปลอมตัวเข้ามาด้วย
เฉินเกอจึงรีบไปบอกยังประธานหลอ (เจ้าของสวนสนุก) ทราบทันที ด้านเกาหรูเสวี่ยที่ไม่สามารถโทรหาเฉินเกอได้ ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว ยิ่งเพื่อนร่วมห้องมาตามเธอไปนอนยิ่งทำให้เธอกังวลหนักขึ้น จนสุดท้ายต้องโทรหาคุณหมอเกา เพื่อขอกลับไปนอนที่บ้าน คุณหมอเกาจึงบอกให้กลับไปรอที่บ้าน เพราะเขาติดงานคงกลับดึก
เกาหรูเสวี่ยจึงรีบออกจากมหาลัยหาแท็กซี่กลับไปยังบ้านทันที แต่พอเกาหรูเสวี่ยกลับไปถึงบ้านที่ชุนชนทะเลสาบชีเสียยังคงติดต่อหาเฉินเกอไม่ได้ ยิ่งตกใจและยิ่งหวาดกลัวยามที่อยู่คนเดียว ยิ่งโทรหาใครไม่ได้ เพื่อนร่วมห้องของเธอกับโทรเข้ามา เมื่อทราบว่าเธออยู่บ้านบอกว่าจะมาหา ยิ่งทำให้เกาหรูเสวี่ยยิ่งตกใจกลัว เมื่อมองผ่านหน้าต่างลงไปยังประตูทางเข้าชุมชนก็เห็นเงาร่างของหญิงสาว ก็ยิ่งทำให้เกาหรูเสวี่ยยิ่งตกใจกลัว เธอยังคงโทรหาเฉินเกอไม่ติด คุณหมอเกาก็ยังไม่ยอมกลับมา จนสุดท้ายเกาหรูเสวี่ยจึงฉุกใจคิดได้ว่า "โทรศัพท์ของเธอน่าจะมีปัญหาโดนผีสิง"
พ่อของเธอที่คุยอยู่อาจจะเป็นผีปลอมตัวมาตั้งแต่ต้น ยิ่งมีโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมห้องโทรเข้ามาบอกว่ากำลังจะขึ้นมาถึงหน้าห้องแล้วยิ่งทำให้เธอตกใจกลัว เฉินเกอที่โทรหาเกาหรูเสวี่ยกับได้ยินเสียงของเธอบอกให้ไปที่มหาลัย แต่เขากับสังเกตได้ว่า "เสียงของเกาหรูเสวี่ยมักจะพูดในที่เงียบๆ เหมือนแอบใคร" พอไปถึงมหาลัยเกาหรูเสวี่ยก็ได้บอกว่า "กำลังแอบซ่อนตัวให้เขารีบมาหาเธอที่ห้องใต้ดินของตึกเรียนทันที" ทำเอาเฉินเกอสงสัย
เขาเดาได้ว่า "สมาคมเล่าเรื่องพิศวงน่าจะวางแผนเล่นงานเขา โดยให้ผีโทรศัพท์ปลอมเสียงเกาหรูเสวี่ยล่อให้เขาไปสู่กับดักอย่างแน่นอน" เฉินเกอจึงรีบตามหาเกาหรูเสวี่ยทันที เขาได้พบหลิวเสียนเสียนกับหม่าอิงที่เพื่อนร่วมห้องของเกาหรูเสวี่ยบอกว่า "เธอหายตัวไป" และทราบจากยามว่า "เธอนั่งแท็กซี่ออกไปจากหอพัก" และบังเอิญแท็กซี่ได้ลืมของที่เธอทิ้งไว้ในรถจึงเอามาให้ จึงทำให้เฉินเกอทราบที่อยู่ของเกาหรูเสวี่ย เขาจึงรีบตามไปทันที แต่ก่อนเฉินเกอจะไปยังบ้านของเกาหรูเสวี่ย ผู้กองเหยียน (คนที่รับผิดชอบคดีสมาคมเล่าเรื่องพิศวง) ได้โทรหาเขาให้ไปหา ผู้กองเหยียนถามถึงสาเหตุที่ผู้หมวดอู๋ยิงปืนไป 1 นัดและจำเหตุการณ์ในคืนนั้นไม่ได้ แถมหมู่บ้านโลงเป็นก็หาไม่เจอ
เฉินเกอก็ไม่สามารถบอกได้ เพราะเขาไม่ได้อยู่ตอนที่ยิงปืน ผู้กองเหยียนจึงบอกต่อว่า "คนร้ายคดีควักลูกตาได้ก่อคดีรอบๆคฤหาสน์สยองขวัญของเขา" จึงอยากให้เฉินเกอระวังตัว ผู้กองเหยียนยังบอกว่า "คนร้ายน่าจะเป็นผู้หญิง" เฉินเกอจึงเดาว่า "น่าจะเป็นหานเป่าเออร์" ที่เป็นผู้ป่วยจากอาคารผู้ป่วยตึก 3 เฉินเกอจึงบอกเรื่องของเกาหรูเสวี่ยและรีบขอไปหาเธอ ผู้กองเหยียนจึงให้หลี่เจิ้งไปกับเขาด้วย เมื่อไปถึงบ้านของเกาหรูเสวี่ย เฉินเกอพบเกาหรูเสวี่ยที่โดนผีสิงกำลังจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เขาจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือเธอทันที
เฉินเหอจึงสงสัยถึงสาเหตุที่เกาหรูเสวี่ยจะโดนฆ่า จึงถามเธอออกไป ทำให้รู้ว่า "ระหว่างขึ้นบันไดเกาหรูเสวี่ยได้สวนกับคนสวมชุดกันฝน" เฉินเกอจึงสงสัยว่า "คนสวมชุดกันฝนคือหานเป่าเออร์" เขาจึงให้หลี่เจิ้งใช้ฐานะของตำรวจรีบตรวจค้นยังห้องที่ต้องสงสัยทันที เขาได้พบยังหานเป่าเออร์ที่ใช้ผีโทรศัพท์โจมตีใส่ทั้ง 2 ทันที ทำเอาหลี่เจิ้งสลบไป ส่วนเฉินเกอกับโชคดีที่สวี่ยินตื่นขึ้นมาพอดี ถึงแม้สวี่ยินจะยังไม่กลายเป็นอาภรณ์แดง แต่ก็มีพลังมากพอที่จะจัดการกับผีโทรศัพท์ได้
เฉินเกอจึงสามารถจัดการหานเป่าเออร์และได้ผีโทรศัพท์มาใช้งาน จึงทำให้ตอนนี้สมาคมเล่าเรื่องพิศวงตอนนี้เหลือเพียงแค่หมายเลขสิบเป็นคนสุดท้าย แต่เฉินเกอกับรู้สึกว่า "หลักฐานต่างๆของหมายเลขสิบกับชี้ไปยังผู้กองเหยียน" แต่เขาก็ปฏิเสธความคิดนั้นไป วันต่อมาโทรศัพท์สีดำมีข้อความว่า "นักท่องเที่ยวพิเศษคนที่ 3 จะมาเที่ยวยังคฤหาสน์สยองขวัญ" ทำให้เฉินเกอสนใจ
พอเขารอกับพบยังหลิวเสียนเสียนกับหม่าอิง และยิ่งเมื่อคุยยิ่งทราบว่า "หลิวเสียนเสียนรักผู้ชายคนหนึ่งที่ภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว" แต่กับคิดว่า "ภรรยายังอยู่ด้วย" ทำให้เฉินเกอฉุกใจคิดถึงหมายเลขสิบที่จะแบกศพหญิงสาวไปหมู่บ้านโลงเป็น ส่วนหม่าอิงที่พี่สาวหายตัวไปกับมีอาการไม่แสดงถึงความหวาดกลัวออกมา (ทั้งๆที่กลัว) และทั้ง 2 ที่อยากทราบคำถามจึงมักจะออกไปหารูปปั้นที่อาคารเรียนเก่า เพื่อถามคำตอบที่ทั้ง 2 อยากรู้
ตอนดึกเฉินเกอจึงไปที่อาคารเรียนตึกเก่าของมหาลัยจิ่วเจียง เพื่อดักรอหลิวเสียนเสียนกับหม่าอิง พอถึงเวลาหลิวเสียนเสียนกับหม่าอิงจึงออกไปหารูปปั้นอัปลักษณ์จนพบ เพื่อถามปัญหากับมัน หลิวเสียนเสียนได้ถามปัญหาจึงทราบว่า "ผู้ชายคนนั้นไม่ได้รักเธอ" และหม่าอิงถามว่า "พี่สาวเธอถูกฆ่าตายหรือเปล่า" ก่อนที่รูปปั้นจะน้ำตาไหล ทำให้ทั้ง 2 ตกใจกลัวก่อนที่จะโดนผีร้ายออกมาไล่ล่า
แต่ในระหว่างวิ่งหนีหลิวเสียนเสียนกับหม่าอิงกับพบยังเฉินเกอที่ถือค้อนทุบกะโหลกและเรียกสวี่ยินออกมาดักรออยู่จึงตกใจกลัว จึงหันหลังวิ่งหนีเฉินเกอไปหายังผีที่ตามล่าพวกเธอแทน แต่เฉินเกอกับวิ่งผ่านทั้ง 2 ไปจัดการกับผีร้ายที่ไล่ล่าทั้ง 2 แทน ทำเอาผีร้ายต้องวิ่งหนีเฉินเกอทันที ส่วนหลิวเสียนเสียนกับหม่าอิงจึงรีบหนีออกจากอาคารเรียนเก่าทันที