(สปอย์) 86 เอทตี้ซิกซ์ เล่ม 7
หลังจากที่หน่วยจู่โจมเร็วที่ 86 สามารถจับจักรกลบัญชาการของพวกลีเจี้ยน "ราชินีไร้เมตตา" ได้ หน่วยของชิน (พระเอก/ยมทูต) และเลน่า (นางเอกราชินีเลือด) ได้ถึงเวลาให้หยุดพัก จึงได้ถูกสั่งให้มาพักผ่อนที่โรงแรมสำหรับกองทัพของสมาพันธรัฐวาลด์ (ที่เคยแยกตัวออกมาจากจักรวรรดิเกียเดเมื่อ 700 ปีก่อน) ที่อยู่ทางใต้ของสหพันธรัฐเกียเด
แต่ห้องอาบน้ำรวมที่ทุกคนได้อาบร่วมทั้งชายหญิงจึงทำให้ต้องสวมชุดว่ายน้ำกัน แม้จะแบ่งแยกชายหญิงอยู่กันคนละฝั่งก็ตาม แต่เลน่าที่ไม่ชินกับการอาบน้ำรวมกับคนมากมาย ก็ต้องอดที่จะก้าวออกมาอย่างอายๆไม่ได้ ยิ่งตอนที่ผ่านห้องเปลี่ยนชุดที่เป็นทางเข้าร่วม เลน่าที่ได้เจอกับชินพอดี จนต้องอายหน้าแดงต้องส่งเสียงร้องแล้ววิ่งหนีทันที พอมาอยู่ร่วมกับสาวๆก็คุยกันถึงเรื่องขนาดหน้าอก และเรื่องราวต่างๆทำเอาชินและชายหนุ่มที่อยู่อีกด้านที่ได้ยินเสียงสาวๆต้องนิ่งเงียบกัน และไม่มีใครกล้าส่งเสียงถามอะไรชินเรื่องเลน่ามากมาย
เลน่าที่กลับมายังห้องอดที่จะกังวลถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับชินไม่ได้ เพราะเขาที่พูดว่า "ความหวังของเขาคือการพาเธอไปทะเล" มันหมายถึงเช่นนั้นหรือเปล่า เธออยากที่จะถามเขาแต่ก็ไม่กล้า จนกระทั่งอาเน็ต (เพื่อนสนิทเลน่า) ที่กลับมาเห็นพอเจอเลน่าถามว่า "ชินคิดยังไงกับชั้น" จึงเจออาเน็ตตอบว่า "เธอมันบ๊อง แต่ขอฟาดสักทีเถอะ"
ด้านชินก็ครุ่นคิดถึงความรู้สึกของตนเองที่อยากพาเลน่าไปทะเล มันคือความหวังของเขา กลัวจะเป็นความคิดของเขาฝ่ายเดียว จนไรเดน (เพื่อนสนิทพระเอก/รองหัวหน้าหน่วย) ที่ต้องเรียกเขาตั้งหลายครั้งกว่าจะรู้สึกตัว ซึ่งไรเดนก็ไม่อยากคิดว่า "ชินจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้"
นอกจากนี้การมาพักที่นี่ยังมีภารกิจอีก 2 อย่างคือ 1.ทั้งชินและวีก้า (องค์ชายของสหราชอาณาจักรโรอาเกรเชีย) ได้ถูกขอให้ไปพูดคุยกับราชินีไร้เมตตาที่ถูกจับอยู่ เพื่อรีดข้อมูล เพราะเธอเลือกที่จะมาพบชินจนโดนจับได้ ในขนาดที่เคยรู้จักวีก้าในวัยเด็ก แต่ราชินีไร้เมตตายังนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร
ด้านชินกับเลน่าที่ได้มาเจอและทานอาหารก็คุยกันถึงเรื่องราชินีไร้เมตตา แล้วชินสังเกตได้ถึงเลน่าเรียกราชินีไร้เมตตาว่า "คนคนนั้น" จึงทำให้ชินถามเธอที่ไม่เรียกลีเจี้ยนเป็นเศษเหล็ก ก่อนเลน่าจะบอกว่า "เพราะชินไม่ชอบไม่ใช่หรือที่เรียกพวกลีเจี้ยนเป็นเศษเหล็ก" ซึ่งชินก็ยอมรับ เลน่าจึงบอกว่า "เขาเป็นคนดี" แต่ชินไม่ยอมรับ เลน่าจึงแซวถึงภาระกิจที่ 2 ที่ชินไม่สามารถทำได้คือไปทดสอบอุปกรณ์ใหม่จนให้พวกไรเดนต้องไปทำแทนว่า "เขาเหมือนเด็กที่โดนยึดของเล่น"
ท่านกลางสายตาของสาวๆและหนุ่มๆในหน่วยที่มองไปยังทั้ง 2 ที่เหมือนไม่มีอะไรคืบหน้าเพิ่ม จนคิดที่จะช่วยชงให้ เพราะกลัวชินปอดขึ้นมา กับความรู้สึกของชินที่ดูออกง่าย แต่เลน่ากับเป็นคนเดียวที่อ่านไม่ออก มีเพียงแต่คุเรนะ (เพื่อนพระเอก/สไนเปอร์) กับเฟรเดอริกา (มาสคอตของหน่วย/อดีตราชินีของจักรวรรดิเกียเดที่ล่มสลาย) เพียง 2 คนเท่านั้นที่ทานอาหารเหมือนไม่สนใจอะไร
จนชินได้มาฝึกการต่อสู้ในเครื่องจำลองและได้พบคู่ต่อสู้ที่ต่อสู้เสมอกัน เพราะอีกฝ่ายใช้เครื่องรุ่นชตอลเลนวูร์มที่มี 4 ขาและมีปีกคล้ายกรีฟ่อนที่มีความสามารถในการต่อสู้บนภูเขามากกว่า อีกทั้งได้พบยังผู้ขับคือโอลิเวียที่มีสีผมสีดำและดวงตาสีแดงเหมือนกับชิน และมีความสามารถที่มองเห็นอนาคตล่วงหน้า 3 วินาที จากการพูดคุยจึงทำให้ชินรู้สึกสนิทสนมกับอีกฝ่ายที่อายุมากกว่า
เลน่าได้มาพบกับผู้บัญชาการที่มาจากสาธารณรัฐที่เหลือรอดอยู่ ที่ยังมองพวกชินและทุกคนเป็นเพียงปศุสัตว์และส่งให้ไปตามตายและพยายามยัดเยียดความรู้สึกนี้ให้กับเลน่า ถึงเธอจะปฏิเสธแต่อีกฝ่ายกับไม่ฟัง จนกระทั่งชินได้เข้ามาช่วยเลน่าและสวนอีกฝ่ายที่ดูถูกออกไปอย่างไม่สนใจ
พอในช่วงที่ว่างชินกับเลน่าได้ไปเดินเที่ยวกัน ชินได้ซื้อโปสการ์ดเพื่อส่งกลับไปหายังปู่และยายของเขา ทำเอาเลน่าที่ดีใจแต่ก็แอบเหงานิดหน่อย ก่อนที่ชินจะพบเพื่อนทหารที่รู้จักมาซื้อตุ๊กตาให้น้องสาวของเพื่อนที่ตายไปอีกคน จึงทำให้เลน่าได้รับรู้ถึงเรื่องราวของเขาที่แยกจากกันในช่วง 2 ปีที่เธอไม่รู้จัก จนรู้สึกเหงาขึ้นมาอีก
ชินได้ไปพบราชินีไร้เมตตาอีกครั้ง เพื่ออยากจะให้เธอพูด เขาจึงเสนอของเข้าไปพูดต่อหน้า โดยไม่ผ่านห้องกักขังอีก ซึ่งพอชินเข้าไปก็ทำให้ราชินีไร้เมตตาตื่นขึ้นและพูดกับเขา และยอมรับว่า "เธอสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่คือเซเลเน ผู้ที่สร้างลีเจี้ยนขึ้นมา" เลน่าที่อยู่ในห้องสอบสวนกับรู้สึกได้ถึงชินที่ก้าวเดินออกไปข้างหน้า ไม่ใช่ชินที่โดนกักขังในเขต 86 คนที่เขาอยากอยู่ด้วย คนที่เขาอยากพึ่งพาอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเธอ เพราะเธอที่ส่งให้เขาไปสู้ก็ไม่แตกต่าง ไม่สามารถอ้อนวอนเขาได้ เพราะเธอคือหมูขาวแห่งสาธารณรัฐ
เลน่าได้กลับไปที่ห้องได้พบกับชีเดน (องครักษ์ของเลน่า) เธอบอกกับชีเดนว่า "เธอไม่แตกต่างจากหมูขาวที่ใช้พวกเอทตี้ซิกซ์เป็นเหมือนเครื่องมือ" แต่ชีเดนกับโกรธและบอกว่า "เลน่าไม่ใช่หมูขาว แต่คือราชินีของพวกเธอต่างหาก" เธอก้าวข้ามเส้นแบ่งมาแล้ว อยากให้เลน่าก้าวข้ามเส้นแบ่งมา และชินก็น่าจะคิดเช่นนั้น
เลน่าได้ไปหาชินที่ฝึกเครื่องจำลองได้เห็นเขาพูดคุยกับโอลิเวียอย่างสนิทสนมจนรู้สึกอิจฉา และไม่พอใจ เลน่ายังอิจฉาทุกคนที่อยู่ใกล้ชิดและรู้จักตัวชินมากกว่าเธอ จากตอนแรกที่เหมือนกับจะตัดใจได้หากเขาจะจากเธอไป เหมือนกับไม่อยากมอบเขาให้ใคร ก่อนที่จะกลับไปโดยที่ชินไม่รู้
คุเรนะที่เห็นถึงเลน่าสับสนและไม่สบายใจยังความรู้สึกที่มีต่อชิน จึงบอกกับเธอว่า "แม้เธอไม่ชอบที่ต้องเสียชินให้เลน่า แต่ก็ยังดีกว่าเสียชินให้กับคนอื่น"
พอชินที่อาบน้ำเสร็จก็เล่นสงครามปาหมอนกับทุกคนจนเหนื่อยและหลับไปบนทางเดิน เลน่าที่มาพบเห็นโอลิเวียกำลังจะบุกเขาจึงไม่ยินยอม เธอบอกจะปลุกเอง เพราะไม่อยากให้โอลิเวียได้สัมผัสตัวชิน ราวกับรับรู้ถึงความรู้สึกของตนเองแล้วที่ไม่อยากมอบชินให้ใคร
ในช่วงยามค่ำคืนได้มีการทดสอบความกล้าให้ไปถึงท้องพระโรงดึกดำบรรพ์ โดยทุกคนพยายามช่วยเหลือด้วยการแยกตัวออกไป แม้แต่อันจู (เพื่อนพระเอก/พลยิงมิสไซล์) ก็ยังดึงตัวดัสตินที่ชอบเธอออกไป เพื่อเปิดทางให้กับชินและเลน่าได้เหลืออยู่กัน 2 ต่อ 2 จนกระทั่งเดินไปถึงท้องพระโรง ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่กำลังแอบมองดูอยู่ เลน่าได้พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะบอกยังความรู้สึกของเธอที่มีต่อชินออกไป แต่ดัสตินที่หลงทางกับอันจูได้ปรากฏตัวมาขัดจังหวะเสียก่อน ทำเอาเลน่าต้องชะงักไปก่อนที่ทุกคนจะรีบดึงตัวดัสตินให้หายไปทิ้งทั้ง 2 ไว้ตามเดิม แต่สุดท้ายเลน่าที่ไม่มีความกล้าพอกับถามชินออกไปว่า "สเปกที่ชินชอบเป็นแบบโอลิเวียหรือ" ทำเอาชินต้องรีบปฏิเสธทันที รีบบอกว่า "เขาไม่มีรสนิยมแบบนั้น เพราะโอลิเวียเป็นผู้ชาย"
เซเลเน (ราชินีไร้เมตตา)ได้พูดกับชินอีกครั้งถามถึงว่า "โกรธแค้นหรือเปล่าที่เธอเป็นผู้สร้างลีเจี้ยนขึ้นมาฆ่าคนมากมาย รวมทั้งครอบครัวของเขา" ชินตอบไปว่า "ไม่โกรธแค้น เพราะความโกรธแค้นมันไม่ช่วยอะไร ไม่สามารถทำให้ใครกลับมาได้" และบอกว่า "จริงๆแล้วเซเลเนที่สร้างลีเจี้ยนขึ้นมาน่าจะเพื่อไม่ให้ต้องมีใครตายอีกต่างหาก ไม่ใช่ต้องการแก้แค้นมนุษย์" ซึ่งเซเลเนก็ยอมรับ เธอจึงบอกถึงวิธีหยุดลีเจี้ยนทั้งหมดกับชินและวีก้าเพียง 2 คนคือต้องใช้การเปลี่ยนโค้ดผู้บัญชาการ ที่ศูนย์บัญชาการกลางของพวกลีเจี้ยน โดยคนที่จะเปลี่ยนได้จะต้องเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิเกียเดที่ล่มสลาย
ต่อมาในคืนสุดท้ายของการพักผ่อนที่เป็นงานเต้นรำที่เลน่าแต่งตัวอย่างงดงามด้วยสร้อยคอลายดอกส้มที่อาเน็ตให้ พอเธอได้ไปพบชินก็ทำให้รู้ว่า "กระดุมที่อาเน็ตมอบให้ชินก็เป็นลายดอกส้มที่เป็นของคู่กันกับเธอ" จึงทำเอาทั้ง 2 อาย แต่พอถึงเวลาเต้นรำทั้งชินและเลน่ากับโดนแยกออกจากการอีก จนทุกคนต้องช่วยเป็นคู่เต้นให้กับทั้ง 2 เพื่อให้ทั้งคู่ได้กับมาเต้นด้วยกัน ก่อนที่ไรเดนกับเฟรเดอริกาที่เต้นคู่กันใกล้ๆทั้ง 2 จะบอกให้ชินพาเลน่าไปพักด้านนอก
อันจูที่ดึงดัสตินออกไปเต้นรำ เพื่อไม่ให้ไปขวางพวกชินกับเลน่าอีก เธอได้บอกกับเขาว่า "เธอคงไม่สามารถลืมไดอาได้" แต่เธอยังพูดต่อไปว่า "อย่าหายไปน่ะ หลังจากนี้ ห้ามตายอย่างเด็ดขาด" ดัสตินตอบไปว่า "ฉันสัญญา ฉันจะไม่ตายแล้วทิ้งเธอไว้อย่างเด็ดขาด"
พอไปอยู่กัน 2 ต่อ 2 ที่ด้านนอกท่ามกลางดอกไม้ไฟที่จุดขึ้น ชินได้ชวนเลน่าไปดูดอกไม้ไฟด้วยกันอีก แม้ครั้งหน้าจะไม่สามารถไปได้ แต่ครั้งต่อไปหรือต่อๆไปก็อยากจะพาเธอไป เพราะเธอเป็นคนที่ช่วยเหลือเขาให้หลุดพ้นจากเอทตี้ซิกซ์ ก่อนที่เขาจะบอกว่า "ผมรักคุณ" และ "อยากอยู่เคียงข้างคุณ ถ้าเป็นไปได้อยากจะมีชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป" เลน่าที่ดีใจร่างกายจึงพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วกว่าคำพูด เธอถึงกับจูบชินท่ามกลางเขาที่ตกตะลึง
พิเศษ
1.ชินที่ได้คุยกับวีก้าทำให้ทราบว่า "พ่อของเขาเคยสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นเพื่อนกับมนุษย์" ซึ่งมันอาจจะเป็นผู้ที่ต่อสู้กับลีเจี้ยนแทนมนุษย์ แต่ครอบครัวของเขากับโดนส่งไปเขต 86 และปัญญาประดิษฐ์ก็โดนยึดหายไป อาเน็ตยังบอกอีกว่า "ชินเคยตั้งชื่อมันว่าไฟด์" เหมือนหุ่นเก็บของของเขา
2.ในการพูดคุยกับเซเลเนจะเป็นการผลัดกันถามระหว่างเธอกับชิน มีบางครั้งที่เซเลเนไม่พอใจจนหยุดพูดคุย จนตอนท้ายเซเลเนที่ยอมให้ความร่วมมือกับชิน เพราะอยากให้เขาหยุดยั้งลีเจี้ยนบัญชาการที่น่าจะสืบทอดสมองมาจากบุคคลที่อันตรายคนหนึ่งที่เธอเดาเอาไว้
3. ท้ายเล่ม หลังจากที่เลน่าจูบชินก็รู้สึกตัว เธออายจนวิ่งหนีไป โดยทิ้งชินที่สับสนไว้ เพราะยังไม่ได้คำตอบจากเธอ