(สปอย์) 86 -เอทตี้ซิกซ์- เล่ม 6
หลังจากที่สหราชอาณาจักรโรอาเกรเซียทางทิศเหนือที่โดนกองกำลังลีเจี้ยนใช้ไอน์ทากส์ฟลีกเกอร์ (จักรกลขนาดเล็กคล้ายผีเสื้อ) ปกคลุมทั่วราชอาณาจักรเพื่อสร้างพายุหิมะ ทางสหพันธรัฐเกียเดจึงได้ส่งยังกองกำลังจู่โจมเคลื่อนที่เร็วที่ 86 มาช่วยเหลือยังสหราชอาณาจักร จัดเป็นกองกำลังผสมที่นำโดยวีก้า (วิคเตอร์ อีดีนาโร้ค/องค์ชายลำดับ 5) และกองทัพซีริน (ภูติประดิษฐ์ในร่างเด็กสาวที่ถ่ายทอดความทรงจำจากสมองของคนที่ตายในการต่อสู้) เพื่อบุกหุบเขากระดูกมังกร หมายจับตัวจักรกลบัญชาการนาม "ราชินีไร้เมตตา"
ราชินีไร้เมตตาที่กำลังติดต่ออยู่กับโนเฟซ (จักรกลบัญชาการอีกตัว) กับได้รับทราบเป้าหมายที่ให้จัดการยังบาเลก์ (ชิน) ที่สามารถทราบตำแหน่งของพวกลีเจี้ยนได้ อีกทั้งเป้าหมายที่ต้องจัดการยังมีฮเวธรุงเกอร์ (วีก้า) ผู้พัฒนาซีรินกับมิเนอร์วา (อาเน็ต/เพื่อนสมัยเด็กชินและเพื่อนสนิทเลน่า) วิศวกรผู้วิจัยระบบพาราเรด (การสื่อสารไร้สาย)
หลังจากการเสียสละของเหล่าซีรินและอัลโคนอสต์ (จักรกลของสหราชอาณาจักร) ทำให้หน่วยจู่โจมของชิน (พระเอก/ยมทูต) สามารถบุกเข้าป้อมเลวิช เพื่อช่วยเหลือเลน่า (นางเอก/ราชินีเลือด) วีก้าและผู้คนที่ศูนย์บัญชาการได้ หลังจบศึกชินที่เหน็ดเหนื่อยจึงหลับไหลไปหลังจากที่ไม่มีเสียงของพวกซีรินและลีเจี้ยนให้ได้ยินอีกแล้ว เลน่าจึงเอาผ้าห่มคลุมให้เขา จนชินอดตื่นขึ้นมาไม่ได้ก่อนหลับไปอีกครั้ง
ในระหว่างที่กำลังหยุดพักพวกของชินและเหล่าเอทตี้ซิกซ์กับต้องได้พบกับพวกซีรินที่ตายไปในศึกที่แล้วกลับเข้ามาประจำการอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไร ทำเอาทุกคนต้องสับสนถึงการสู้รบที่ต้องสู้ต่อไปหรือผลักภาระไปให้กับผู้ที่เคยตายและเกิดใหม่ในฐานะของอาวุธสงคราม (ซีริน) ชินที่ไม่อยากคาดหวัง เพราะไม่กล้าที่จะคาดหวังกับรู้สึกสับสนจากคำพูดของแลร์เชอ (ซีรินหมายเลข 1/ที่สร้างจากบุตรสาวแม่นมของวีก้า) ที่เคยพูดว่า "ชินยังอยากจะทำสงครามทั้งที่ยังไม่ละทิ้งร่างกายของมนุษย์ที่เป็นจุดอ่อน ทั้งๆที่ยังอยากอยู่ข้างใครบางคน น่าจะปล่อยสงครามให้กับพวกตนที่ตายไปแล้วต่างหาก" จึงทำให้เขารู้สึกสับสนและอยากที่จะเปลี่ยนแปลง อยากที่จะลองคาดหวังดู แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวที่จะผิดหวัง กับได้พบยังคุเรนะ (เพื่อนชิน/พลซุ่มยิง) ที่แอบชอบชินอยู่ออกมาพูดว่า "พวกเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง" เพราะถ้าเปลี่ยนแปลงที่อยู่ที่ข้างชินของเธอจะหายไป แต่ชินกับปฏิเสธไป
แต่หลังจากที่ชินต้องไปรับเลน่าที่ไปร่วมงานเลี้ยงและประชุมทางการทหารด้วยชุดเดรส ยิ่งทำให้เขารู้สึกแตกต่างไม่อยากจะทำให้เลน่าต้องแปดเปื้อนยังโลกที่โหดร้ายเหมือนเขา จึงยิ่งไม่อยากจะเข้าใกล้เธอ ไม่อยากให้เธอต้องรู้สึกเจ็บปวดอีก ยิ่งเลน่าพูดถึงความหวังยิ่งทำให้ชินยิ่งสับสน แต่เลน่าไม่ทันระวังกับก้าวเท้าจะหกล้มหลังจากเหยียบก้อนน้ำแข็ง ชินจึงรีบเข้าไปประคองเธออย่างรวดเร็ว เลน่าที่บอกว่าชินเป็นคนใจดี บอกกับเขาว่า "ถ้าคุณพบสิ่งที่ต้องการแม้จะอยู่ในโลกแบบนี้ เมื่อถึงตอนนั้นคุณมีความหวังได้ ต่อให้เห็นว่าโลกนี้ช่างโหดร้าย แต่ที่นี่ไม่ใช่เขต 86 ความหวังของคุณสามารถเป็นจริงได้ ถ้าไม่รังเกียจถึงตอนนั้นช่วยบอกฉันถึงความปรารถนาของคุณ" ยิ่งทำเอาชินยิ่งรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลง แม้จะมองไม่เห็นอนาคตที่ไม่เคยนึกถึงเลยก็ตาม
ในการต่อสู้ครั้งต่อไปกองทัพผสมต้องบุกยึดยังขุนเขาเขี้ยวมังกรที่น่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของราชินีไร้เมตตาและโรงงานผลิตพวกลีเจี้ยนที่บุกสหราชอาณาจักร แต่ริโตะ (ทหารเด็กหนุ่มในกองทัพของชิน) รู้สึกสับสนกับพวกซีรินที่สู้รบโดยไม่สนใจถึงชีวิตตนเอง จึงทำให้ต่อสู้ได้อย่างไม่เต็มที่ ชินจึงสั่งให้อีกฝ่ายถอยกลับไป แต่ในระหว่างนั้นเองชินกับได้พบยังดีโนเซาเรียร์ (จักรกลขนาดใหญ่ที่ติดตั้งปืนใหญ่) ของพวกลีเจี้ยนที่เป็น "คนเลี้ยงแกะ" ที่ใช้สมองของอดีตเอทตี้ซิกซ์ไปสร้างชิปประมวลผล เขาจึงเข้าไปต่อสู้กับอีกฝ่าย แต่ด้วยความสับสนและลังเลในความรู้สึกของตัวเองที่ยังมีอยู่จึงทำให้ชินถอยหลบการโจมตีของอีกฝ่ายช้าจนได้รับบาดเจ็บสลบลงไป ยังดีที่คนในหน่วยช่วยกันขับไล่มันออกไปและช่วยชินกลับมาได้
เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เลน่าจึงไปคุยกับชินอีกครั้ง เพื่อให้เขาบอกถึงสาเหตุที่กลุ้มใจกับเธอ แต่ชินที่กลัวว่า "เลน่าไม่ยอมรับความรู้สึกและความหวังของเขา" จึงไม่กล้าที่จะบอกเธอ จึงทำให้เลน่าที่น้อยใจถึงกับร้องไห้ออกมาที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับเขาได้ก่อนวิ่งหนีไป ทางด้านวีก้าที่มาพบชินได้บอกว่า "เขาขี้ขลาด" และให้ชินพูดกับเลน่าในขณะที่ยังสามารถบอกได้ดีกว่า ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พูด เพราะถึงเวลาสูญเสียก็ต้องสูญเสียอยู่ดี
ในแผนรบครั้งต่อไป กองทัพผสมได้ใช้การยิงจักรกลระเบิดพลีชีพอัตโนมัติรูปล้อรถไปบนท้องฟ้าให้พุ่งลงตกมาเข้าชนระเบิดใส่กลุ่มลีเจี้ยน โดยมีคุเรนะกับอันจู (เพื่อนชิน/พลโจมตีวงกว้างด้วยมิสไซล์) ควบคุมการยิงจึงทำให้พวกเธอต้องสวมวานาดีส (อุปกรณ์สื่อสารที่ดีกว่าพาราเรด) ซึ่งจะทำให้รัดรูป เห็นถึงรูปร่างอย่างชัดเจน ก่อนที่ดัสตีน (รองหัวหน้าหน่วยของอันจูที่หลงรักเธอ) จะมาเห็นเข้าทำเอาทั้งสองต้องส่งเสียงร้องออกมาอย่างดังลั่นกองทัพด้วยความเอียงอาย นอกจากนี้เลน่าที่เป็นคนวางแผนบุกยังให้เครื่องบินไร้คนขับบินขึ้นไปก่อนที่จะโดนเหล่าไอน์ทากส์ฟลีกเกอร์เข้าไปทำลายเครื่องยนต์จนตก แต่ก็ตกใส่พวกลีเจี้ยนพร้อมทั้งยังใช้กระสุนไฟฟ้าเปิดทางให้หน่วยจู่โจมบุกฝ่าพวกลีเจี้ยนเข้าไปยังขุนเขาเขี้ยวมังกรได้
แต่ในระหว่างที่กองทัพของพวกชินมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย พวกของวีก้าก็เจอกองทัพลีเจี้ยนบุกโจมตี แต่ด้วยบารุชกา มาตุชกา จักรกลของวีก้าที่ทรงพลังกับสามารถจัดการพวกลีเจี้ยนที่เข้ามาโจมตีเขาได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาช่วย
แต่เฟอนิกซ์ (จักรกลสมรรถนะสูง) ที่รับผิดชอบในการจัดการกับชินกับบุกเข้าโจมตีกองบัญชาการที่เลน่าอยู่อีกครั้ง เพราะประเมินว่า "บาเลก์ที่เป็นเป้าหมายอยู่ที่นั่น" เลน่าที่เดาความคิดของลีเจี้ยนจึงใช้การสื่อสารไร้สาย ทำให้เฟอนิกซ์คิดว่า "เธอคือบาเลก์" จึงหมายเข้าโจมตี ชินที่ทราบจึงต้องหยุดเคลื่อนที่เพื่อใช้ประสาทสัมผัสรับรู้ถึงการคงอยู่ของเฟอนิกซ์ที่บุกไปโจมตีด้วยการใช้ทั้งร่างจริงและร่างแยกเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้ชีเดน (องครักษ์ของเลน่า) สามารถมาดักรอและยิงจนเฟอนิกซ์ได้รับความเสียหายถอยกลับไป
แต่ในขนาดที่ชินไม่สามารถขยับได้ เพราะกำลังใช้ประสาทสัมผัสค้นหาเฟอนิกซ์อยู่ ดีโนเซาเรียร์ที่เป็น "คนเลี้ยงแกะ" ก็ได้ปรากฏตัวมาโจมตีใส่พวกชิน ก่อนที่จะได้ไรเดน (เพื่อนชิน/รองหัวหน้าหน่วยจู่โจม) กับเซตะ (เพื่อนชิน/เชี่ยวชาญการใช้ลวดสลิง) จะร่วมมือช่วยกันจัดการกับดีโนเซาเรียร์ลงไปได้
เลน่าได้บอกกับชินว่า "ไม่จำเป็นต้องช่วยเธอ" ในขนาดที่ชินกับบอกออกไปว่า "เขาจะเป็นต้องช่วย ทั้งยังบอกให้เธอรอเขากลับมาและบอกถึงความปรารถนาของเขาหลังสงครามจบสิ้นคือต้องการพาเธอไปดูทะเล" ซึ่งเลน่าก็ตกลงจะรอเขาและไปดูทะเลด้วยกัน
แต่เมื่อทุกคนบุกเข้าไปในขุนเขาเขี้ยวมังกรกับพบความจริงที่โหดร้ายคือ ความร้อนภายในหุบเขาที่มีลาวา จนทำให้ปฏิบัติภารกิจบุกโจมตีจับกุมราชินีไร้เมตตาและทำลายโรงงานผลิตลีเจี้ยน ทำได้เพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะเรกินลีฟ (จักรกล) ของพวกชินที่มีน้ำหนักเบา เพื่อเคลื่อนที่เร็วกับทนความร้อนไม่ดี
ในระหว่างที่บุกเข้าไปกลุ่มของชินเจอเฟอนิกซ์เข้ามาโจมตี โดยใช้กระสุนยิงทำเอาเรกินลีฟเครื่องอื่นๆเคลื่อนไหวไม่ได้ ชินจึงขับอันเดอร์เทคเกอร์ล่อเฟอนิกซ์ออกไป เพื่อต่อสู้ตัวต่อตัว เฟอนิกซ์ก็ได้ยิงหินทำลายกำแพงปิดกั้นพวกของไรเดนและคนอื่นๆไม่ให้สามารถตามมาได้ พอพวกไรเดนขยับได้จึงทำการค้นหาชิน แต่กับพบยังราชินีไร้เมตตากำลังเคลื่อนที่อ้อมไปตามเส้นทางสายหนึ่งจึงรีบตามไป
ทางวีก้าที่สามารถทำลายยังโรงงานผลิตพวกลีเจี้ยนได้ จึงได้แบ่งกำลังกลุ่มหนึ่งออกไปค้นหาชินด้วย
ในขนาดที่ดีโนเซาเรียร์อีกกลุ่มหนึ่งก็นำทัพบุกเข้าโจมตีกองบัญชาการของเลน่าอีกครั้ง เธอที่ต้องการรักษาสัญญาว่า "จะรอชิน" จึงตัดสินใจสั่งโอเปอเรเตอร์ของเธอขับรถบัญชาการพุ่งชนอาไมเซ่อ (จักรกลสอดแนม) ก่อนที่ดีโนเซาเรียร์จะเล็งปืนมายังรถของเลน่า แต่คุเรนะที่รีบขับกันสลิงเกอร์มาถึงกับยิงดีโนเซาเรียร์ไปก่อน เพื่อช่วยเลน่าตามการฝากฝั่งของชิน
ริโตะที่รับหน้าที่ค้นหาชินกับซีรินนาม "ลุดมิลา" ที่เสียชีวิตในครั้งที่แล้ว ริโตะจึงบอกกับอีกฝ่ายว่า "ถึงจะกลัวตาย แต่ก็ยังจะต่อสู้ต่อไป เพราะเขาต้องการความหมาย อยู่อย่างมีความหมายและตายอย่างมีความหมาย" ลุดมิลาจึงอวยพรให้ริโตะมีความสุข
ในขนาดที่ชินได้ต่อสู้กับเฟอนิกซ์ที่ในยามนี้เปลี่ยนรูปแบบมาใช้การยืน 2 ขาแบบมนุษย์ เพราะเคยแพ้ชินและแลร์เชอทั้ง 2 ครั้งในรูปร่างของมนุษย์ (มันจึงคิดว่า "นี่เป็นรูปแบบที่ดีที่สุด") สมรภูมิของทั้งสองคือโขดหินที่มีลาวาขวางกั้น ชินจึงถอยอันเดอร์เทคเกอร์ของตนจนขาก้าวพลาดไปเหยียบลาวา เปิดโอกาสให้เฟอนิกซ์สามารถกระโดดมาพร้อมทั้งเหวี่ยงแส้เอาคอนเทนเนอร์บรรจุกระสุนโยนใส่ลาวาจนเกิดระเบิดทำให้มันสามารถพุ่งตัวเข้ามาประชิดอันเดอร์เทคเกอร์ได้ ชินที่กระโดดหลบระเบิดจึงยิงยังเครื่องยิงเสาเข็มที่อยู่ในขาทั้ง 4 ออกไปให้อันเดอร์เทคเกอร์ลอยตัวขึ้นไปอีกระดับ หลบยังแส้ของเฟอนิกซ์ที่โจมตีใส่ให้พบกับความว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะใช้ใบมีดของอันเดอร์เทคเกอร์ฟันใส่เฟอนิกซ์จนตกลงลาวาไป
ส่วนอันเดอร์เทคเกอร์ของชินที่หมดสภาพกับเคลื่อนไหวไม่ได้ ชินจึงได้แต่ออกมานอกเครื่องรอความตาย แต่ราชินีไร้เมตตากับมาปรากฏยังเบื้องหน้าของชิน ทำเอาเขานึกถึงสัญญาที่มีให้กับเลน่าอยากที่จะมีชีวิตต่อไปจึงเลือกที่จะดิ้นร้น ก่อนที่ไฟด์ (จักรกลเก็บขยะ) จะโผล่มาช่วยเขาพร้อมกับพวกไรเดนจับกุมราชินีไร้เมตตาได้สำเร็จ
ด้านอาเน็ตที่ยอมเอาตัวเป็นเหยื่อล่อพวกลีเจี้ยนกับไม่มีใครติดตามเธอ เพราะพวกลีเจี้ยนไม่รู้ถึงเธอที่มายังสนามรบแห่งนี้ ทำให้เธอและวีก้าเดาว่า "คนที่ปล่อยข้อมูลของอาเน็ต" น่าจะไม่อยู่ที่สหราชอาณาจักร
ชินที่ได้รับบาดเจ็บจากพิษความร้อนจึงถูกส่งไปรักษากับได้พบแลร์เชอมาหา แลร์เชอถามชินที่เกือบตายว่ายังอยากมอบภาระของสงครามให้กับพวกเธอที่เป็นซีรินหรือไม่ ชินจึงตอบไปว่า "เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต่อสู้ถึงที่สุดคือความภูมิใจไม่อยากจะทิ้งมัน ไม่อยากใช้ชีวิตที่น่าสมเพช ไม่อยากจะหนีจากสนามรบ แต่ก็ยังอยากจะใช้ชีวิตกับใครบางคน เขาจะไม่เลือกทางไหนทั้งนั้น เพราะว่าเขายังมีชีวิต" แลร์เชอจึงยิ้มรับตอบกลับว่า "ไม่ตัดใจจากอะไรสักอย่างซ้ำยังต้องการเพิ่มช่างละโมบสมเป็นมนุษย์จริงๆ" ก่อนที่จะบอกกับชินว่า "หากว่าในวันนึงพวกท่านไม่มีความจำเป็นต่อสนามรบแล้วดิฉันจะแจ้งให้ทราบด้วยเกียรติของพวกเราเอง มนุษย์" ชินจึงตอบไปว่า "ก็ลองดู ดาบ"
ชินได้ไปพบกับเลน่าอีกครั้งก่อนที่จะเดินเคียงข้างกัน เลน่ากล่าวออกมาว่า "ยินดีต้อนรับกลับมานะคะ" ชินจึงตอบไปว่า "ครับ ผมกลับมาแล้ว"
เมื่อกลับมายังสหพันธรัฐเกียเดอีกครั้ง เลน่าที่นั่งทำงานจึงพูดคุยกับวีก้าที่ในยามนี้ถูกส่งมาช่วยยังสหพันธรัฐ หลังการต่อสู้ที่สหราชอาณาจักรจบสิ้นลง ส่วนชินจึงตัดสินใจกลับไปยังบ้านของปู่และได้พบปู่กับยายที่มาหาเขาด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อทั้งคู่ชวนให้เขาทานข้าวเย็น ชินจึงปฏิเสธ เพราะสัญญาไว้กับเลน่าว่า "จะกลับไป"
เล่มพิเศษ 1. ชินที่ปฏิเสธปู่กับยายแล้วกลับมายังบ้านของตนและเพื่อนๆ เลน่าที่มาเจอทุกคน มาทานอาหาร นั่งเล่นและค้างคืนที่นั่น ชินที่นอนลงไปบนเตียงของตน ที่ผนังอีกด้านเป็นห้องรับแขกที่เลน่ากำลังนอนอยู่ เขาที่โล่งใจจึงหลับไหลลงไป
เล่มพิเศษ 2. อีกด้านหนึ่งของกำแพง เลน่าที่มาค้างยังบ้านชินกับนอนไม่หลับ
เล่มพิเศษ 3. ชินที่โดนเรียกเข้าพบถึงกับนั่งนิ่งเป็นน้ำแข็งเหมือนวิญญาณหลุดจากร่าง เพราะคำพูดของเขากับเลน่าในระหว่างการต่อสู้ถูกบันทึกไว้และเปิดกลางที่ประชุม ซึ่งมันน่าอายมากและบรรดาผู้นำต่างพูดถึงรักวัยเยาว์ของตัวเอง
เล่มพิเศษ 4. วีก้าบอกกับมาร์ตินา แม่นมของตนที่ยังไม่สามารถคืนแลร์เชอลีด (ลูกสาวแม่นม/ต้นแบบแลร์เชอ)ได้ แต่มาร์ตินาไม่ได้โกรธอะไรเขา ที่อย่างน้อยแลร์เชอยังอยู่เคียงข้างวีก้าแทนแลร์เชอลีดที่ไม่มีแม้แต่โอกาส