(สปอย์) สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก เล่ม 7



(สปอย์) สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก เล่ม 7

หลังจากที่มุโคด้า (พระเอก) ตะลุยดันเจี้ยนที่เมืองเอเวลิ่งกับเอลแลนด์ (กิลด์มาสเตอร์ของเมืองเดอราน) เสร็จก็ทานอาหารและพักผ่อนกันที่โรงแรม โดยในวันนี้ถึงกำหนดที่ต้องสังเวยของให้กับเหล่าเทพธิดาและเทพเจ้าทั้งหลาย แต่ในระหว่างที่มุโคด้าได้ถวายของให้กับเหล่าเทพเจ้าและเทพธิดาเสร็จ

แต่เดมิเออร์กอส เทพผู้สร้างที่เป็นเทพสูงสุดกับทราบเรื่องถึงเหล่าเทพที่มอบอารักษ์ให้ แต่เรียกร้องสิ่งตอบแทน จึงทำการลงโทษเหล่าเทพและเทพธิดาทั้งหลายด้วยการกักบริเวณพร้อมทั้งริบของถวาย และในระหว่างพูดคุยเดมิเออร์กอสที่เคยลิ้มรสสาเกญี่ปุ่นจึงมีความอยากลองอีกสักครั้ง จึงทำให้มุโคด้าถวายเหล้าสาเกญี่ปุ่นให้ เดมิเออร์กอสจึงได้มอบอารักษ์ย่อยให้กับมุโคด้า เป็นผลทำให้เขาสามารถมีอายุยืนยาวได้ 1,500 ปี แต่พอบอกเรื่องนี้กับพวกเฟส (สัตว์อสูรของพระเอก/เฟลริว) โดราจัง (สัตว์อสูรของพระเอก/ฟิกซี่ดรากอน) และซุย (สัตว์อสูรของพระเอก/สไลม์) จึงทำให้พวกมันดีใจที่จะมีคนทำอาหารให้กับพวกมันทางอีกถึง 1,500 ปี



นอกจากนี้มุโคด้ายังทราบข่าวของไคโตะ ริโอะและคาน่อน (นักเรียนม.ปลายที่ถูกอัญเชิญมาพร้อมกับมุโคด้าในฐานะผู้กล้า) ที่ตอนนี้ได้หนีออกจากอาณาจักรเรเซเฮลไปเป็นนักผจญภัยอยู่ที่อาณาจักรมัลเบิร์ต และพอทราบว่า "ริโอะสูญเสียแขนซ้ายไป" มุโคด้าจึงมอบเอลิกเซอร์ที่เขาทำให้ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บโดยฝากให้กับเทพผู้สร้างไปมอบให้ ซึ่งเทพผู้สร้างก็บอกว่าทั้ง 3 กำลังจะแต่งงานกันแล้วจะแอบให้พบเอลิกเซอร์เป็นของขวัญ ทำเอามุโคด้าที่ไม่มีดวงด้านความรักอดอิจฉาไม่ได้

ต่อมาพวกของมุโคด้าจึงเดินทางกลับไปยังเมืองเดอราน เพื่อนำยังเรดดรากอนไปชำแหละที่กิลด์ของที่นั่น ก่อนที่ทุกคนจะทานเป็นอาหารกันทำให้รู้ว่า "เนื้อของเรดดรากอนเหมือนเนื้อแดงของเอิร์นดรากอน แต่ไขมันน้อยกว่า จึงเป็นเนื้อที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา"

วันต่อมาพวกของมุโคด้าจึงไปลงดันเจี้ยนที่เดอรานอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้มีเป้าหมายพิชิตชั้นที่ 24 ซึ่งมุโคด้าก็โดนเฟลบังคับให้ต้องต่อสู้กับสปริกกัน ซึ่งมุโคด้าก็ใช้เวทมนต์ไฟโจมตีจนสามารถเอาชนะได้ เป็นผลทำให้เลเวลของเขาขึ้นมาจาก 62 เป็น 66 ส่วนซุยก็ขึ้นมา 42 โดราจังขึ้นมา 199 ส่วนเฟลยัง 945 เท่าเดิม

ต่อมาพวกมุโคด้าจึงตัดสินใจกลับไปยังเมืองคาเรลีน่า ที่เป็นเมืองแรกที่เขามาถึงของอาณาจักรแห่งนี้ เพื่อจะไปรับยังหนังของไวเวิร์นที่สั่งทำเป็นชุดเกราะ และพบกับแลมเบิร์ตที่รับตัดเย็บชุดเกราะและเป็นพ่อค้าที่เป็นตัวแทนขายสบู่และแชมพูของมุโคด้า เพื่อทำการเติมสต๊อกสินค้า จึงทำให้มุโคด้ามีความคิดที่จะสร้างฐานที่มั่นที่เมืองนี้จึงตัดสินใจซื้อคฤหาสน์

แลมเบิร์ตเลยแนะนำเนสทรีที่เป็นนายหน้าให้พาไปดูคฤหาสน์ของขุนนางที่ถูกทิ้งไว้ ซึ่งมีขนาดใหญ่และมีราคาแพงถึง 12,000 เหรียญทอง แต่พอไปดูก็พบถึงสวนที่มีขนาดใหญ่ทำเอาพวกเฟส โดราจังและซุยถึงกับชอบ และมีห้องน้ำขนาดใหญ่ตรงตามที่ต้องการของมุโคด้า แต่ในขนาดที่จะไปดูที่อื่น พวกของเฟสทั้ง 3 กับไม่ยอมที่จะออกไปจึงทำให้มุโคด้าต้องซื้อคฤหาสน์หลังนี้อย่างช่วยไม่ได้

ต่อมามุโคด้าที่ต้องการคนดูแลคฤหาสน์ที่มีขนาดใหญ่และคนทำงานเติมสบู่และแชมพูจากขวดที่ซื้อมาลงในภาชนะขนาดใหญ่ จึงอยากจะได้คนงานที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้ แลมเบิร์ตจึงแนะนำให้มุโคด้าซื้อทาสที่มีสัญญาผูกมัดจะดีกว่า เพื่อเป็นการรักษาความลับ ทั้งยังแนะนำให้ซื้อทาสที่มีฝีมือมาเป็นองครักษ์ในยามที่เขาไม่อยู่ด้วย เพราะตอนนี้ทางสมาคมการค้าที่มีข่าวลือที่ไม่ดีกำลังพยายามจะสืบถึงผู้ผลิตแชมพูและสบู่อยู่ จึงทำให้มุโคด้าเลือกที่จะซื้อทาสตามคำแนะนำของแลมเบิร์ต



มุโคด้าได้ไปซื้อทาสตามจดหมายแนะนำของแลมเบิร์ต ในตอนแรกเขาที่คิดจะมีทาสสาวๆน่ารักๆกับโดนปฏิเสธเพราะว่า "ทาสก็มีสิทธิ์เลือกนายจ้างเหมือนกัน" ประกอบกับคนที่คิดจะเป็นทาสกามหรือขายตัวน่าจะไปโคมแดงมากกว่า เพราะมีรายได้ที่ดีกว่า และที่อาณาจักรแห่งนี้ยังมีกฎหมายห้ามทำการทารุณกรรมต่อทาส จึงทำให้มุโคด้าอยากได้สาวๆน่ารักๆมาคอยดูแลต้องผิดหวัง แต่เขาก็ยังคงเลือกที่จะซื้อทาสตามคำแนะนำของแลมเบิร์ต ที่ให้เลือกซื้อเป็นครอบครัวจะดีกว่า เพราะทาสที่ไม่ต้องถูกขายแยกจะสำนึกบุญคุณของเขา

ซึ่งมุโคด้าก็เลือกซื้อยังทาสมา 2 ครอบครัวคือครอบครัวของโทนี่ที่มี พ่อโทนี่ (33) แม่ไอยา (30) ลูกชายคอสตี้ (13) ลูกสาวเซริยา (9) ที่เป็นหนี้เพราะต้องซื้อยามารักษาไอยา กับครอบครัวของเออร์บัน ที่มีพ่อเออร์บัน (30) แม่เทเรซ่า (28) ลูกชายโอลิเวอร์ (10) ลูกชายเอริค (8) ลูกสาวล็อตเต้ (5) ที่เป็นหนี้เพราะผลผลิตการเกษตรเสียหาย ทั้งยังซื้อทาสสำหรับต่อสู้อีก 5 คนคือเผ่าครึ่งเสือนาเดีย (28/นักผจญภัยระดับ b) ฝาแฝดลุคและอาวิน (24/นักผจญภัยระดับ c) ที่เป็นน้องของนาเดีย คนแคระบาร์เทล (92/นักผจญภัยระดับ b) ที่เป็นทาส เพราะเสียค่าปรับจากการทำภารกิจล้มเหลว กับปีเตอร์ที่มีบรรพบุรุษเป็นชนเผ่ายักษ์ (20/หน้าตาคล้ายกอริล่า/นักผจญภัยระดับ d) มา

เมื่อพาทุกคนกลับมาถึงบ้านแล้วก็แนะนำทุกคนให้รู้จักกับพวกเฟล มุโคด้าจึงแบ่งงานให้กับทุกคนคือ พวกผู้ชายมีหน้าที่ดูแลสวนภายนอกในขณะที่พวกผู้หญิงมีหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน โดยขอแค่เรียบร้อยพอไม่ถึงกับจำเป็นต้องดีมากนัก นอกจากนี้ยังให้คอยช่วยงานในการบรรจุแชมพูและสบู่ก่อนที่จะนำไปขายให้กับแลมเบิร์ต

ซึ่งในระหว่างที่กำลังพูดคุยมุโคด้าก็ได้แสดงถึงสกิลเน็ตซูปเปอร์ให้ทุกคนเห็นโดยที่ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ทั้งยังเอาขนมปังและเครื่องดื่มออกมาให้ทุกคนกิน ก่อนที่จะให้ทุกคนไปดูยังที่พักอาศัยที่เป็นเรือนแยกสำหรับคนรับใช้ด้านหลังที่มี 3 เรือน โดยให้ครอบครัวของโทนี่และเออร์บันแยกอยู่กันคนละหลัง ส่วนนักผจญภัยทั้ง 5 ให้อาศัยอยู่รวมกัน พร้อมทั้งนำอุปกรณ์อย่างสบู่ ยาสีฟัน ที่นอนออกมาให้กับทุกคน

พอกลับไปถึงเรือนหลักมุโคด้าที่ใช้สกิลวินิจฉัยว่า "โรคของไอยายังไม่หายดี" จึงมอบเอลิกเซอร์ให้ดื่มเพื่อรักษาให้หายขาด ก่อนที่เขาจะทำหม้อไฟให้กับทุกคนทานเป็นการเลี้ยงต้อนรับ จึงทำให้ทุกคนที่ได้มาเป็นทาสของมุโคด้ารู้สึกยินดีและมีความสุข ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักแต่ถึงแม้จะมีห้องมากมายพวกของเฟลกลับยังมานอนรวมกับมุโคด้า

ปล.1.ตอนพิเศษท้ายเล่มจะเป็นการกล่าวถึงเรื่องร้านเหล้ามายาในหมู่คนแคระที่ต้องปิดเป็นความลับจะแนะนำได้เฉพาะคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น ซึ่งพอพวกคนแคระไปยังร้านเหล้ามายาที่เปิดก็ได้พบกับมุโคด้าที่ว่างๆอยู่ จะปลีกตัวมาตั้งร้านเหล้าในโกดัง โดยเหล่าคนแคระที่พอใจยังเหล้าและวิสกี้ของมุโคด้า จึงซื้อกลับไปกันชนิดละ 5 ขวดตามข้อกำหนด

2.ในบรรดาเหล่าเทพและเทพธิดาทั้งหลายที่กำลังโดนเทพเจ้าสูงสุด เดมิเออร์กอสสั่งกักตัวและริบเครื่องสังเวย มีเพียงรูซาล์ก้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ตุนของหวานไว้ในไอเทมบล็อกหยุดเวลา จึงทำให้เธอเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถอยู่รอดได้ในช่วง 1 เดือน ในขณะที่คนอื่นๆต่างร้องโวยวายด้วยความโหยหาเครื่องสังเวย