(สปอย์) เมื่อผมเป็นเจ้าของคฤหาสน์สยองขวัญ เล่ม 6


(สปอย์) เมื่อผมเป็นเจ้าของคฤหาสน์สยองขวัญ เล่ม 6

เฉินเกอ (พระเอก) ที่ไปยังตึก 3 ชุมชนฟางหัวย่วน ขึ้นไปชั้นที่ 24 เขาได้สวมหน้ากากเข้าร่วมสมาคมเล่าเรื่องพิศวง แต่แทนที่จะมีคนมาใหม่ 3 คน เขากับกลายเป็นคนที่ 4 จึงทำให้ต้องเล่าเรื่องพิศวง เพื่อกลายเป็นสมาชิก โดยทุกเรื่องจะต้องเป็นเรื่องจริง

เมื่อคนแรกที่เป็นชายหนุ่มเล่าเรื่องของตนจบไป คนที่ 2 ที่เป็นชายร่างอ้วนได้เล่าถึงเรื่องของตนที่มีเมียเป็นครูสอนเต้นรำ แล้วมีเด็กสาวที่สวยงามและเต้นเก่งคนหนึ่งทำให้ชมรมเต้นรำได้เข้าแข่งขันจนมีชื่อเสียง แต่เด็กสาวอีก 5 คนในชมรมกับไม่พอใจเธอและไม่ยอมคบด้วย จนสุดท้ายเด็กสาวทั้ง 5 คนได้ร่วมมือกับชายร่างอ้วนหมายจะข่มขืนเด็กสาวที่สวยงาม จนเธอต้องกระโดดหน้าต่างฆ่าตัวตาย เพื่อหนีจากการโดนข่มขืน จึงทำให้เฉินเกอทราบว่า "ชายร่างอ้วนคือจูซิ่ว คนร้ายที่ทำให้จางหย่า (ผีอาฆาตอาภรณ์แดง) ตาย"

ต่อมาคนที่ 3 ที่เป็นหญิงสาวเล่าถึงเรื่องสามีที่มีภรรยาที่เป็นโรคอยากทานเนื้อ จนลุกไปทานทุกคืน พอสามีไปดูตอนแรกพบเป็นไก่ ปลา ก่อนที่จะพบขนแมว ขนหมาจนต้องหย่า ต่อมามีตำรวจโทรมาบอกว่า "ภรรยาเกี่ยวข้องกับคนหาย" และเมื่อสามีกลับมาบ้านกับพบภรรยาแอบเข้ามาในบ้าน ก่อนที่จะจบเรื่องลงไป ทำเอาทุกคนเดาว่า "หญิงสาวคือภรรยากับชะตากรรมของสามี" และเฉินเกอที่ได้ยินเสียงก็เดาได้ว่า "เธอคือลี่จือที่จัดรายการวิทยุรอบดึก"

พอถึงตาเฉินเกอเล่า เขาได้เล่าเรื่องของชายที่ตามหาภรรยาที่หายไป แต่สรุปว่ากับมีข้อความขอความช่วยเหลือจากภรรยามาทุกคืน ซึ่งจริงๆแล้วเขาเป็นคนฆ่าภรรยา จึงย้ายที่ฝังภรรยา ก็ยังพบชุดของภรรยาในตอนตื่นนอน จนสุดท้ายเอาร่างของภรรยาไปซ่อนไว้ในผนังแล้วฉาบปูนทับ ก่อนจะโดนตำรวจจับได้ แต่คล้ายกับโดนสมาชิกเก่าหลายคนบอกว่า "ไม่ดีพอ" เฉินเกอจึงเล่าเรื่องของเด็กที่เห็นพ่อแม่ตกบ่อน้ำ อาศัยอยู่กับป้าที่เป็นคนร้ายและวิญญาณร้าย เล่าเรื่องเทพปากกากับเด็กสาวคนเดียวที่รอดชีวิตแต่กลายเป็นคนซึมเศร้า เล่าเรื่องชายหนุ่มที่ฝันว่าสระผมแล้วมองไปในกระจกเจอวิญญาณค่อยๆเข้ามาใกล้เรื่อยๆ สุดท้ายเล่าเรื่องสวี่ยินที่รักหญิงสาวก่อนโดนทรมานจนตาย ทำให้เฉินเกอผ่าน แต่ชายหนุ่มคนแรกกับถูกคัดออกไปแทน

เมื่อชายหนุ่มคนแรกออกไปกับมีเสียงร้องดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด จูซิ่วจึงกลายเป็นหมายเลข 11 ลี่จือคือหมายเลข 12 และเฉินเกอคือหมายเลข 13 ทั้งยังบอกว่า "หากใครเล่าครบ 3 เรื่องจะขอความปรารถนาได้ 1 ข้อ" ซึ่งเฉินเกอก็ได้ถามว่า "ใครเป็นนายกสมาคม" แต่ทั้ง 10 คนกับบอกไม่มีใครทราบ หลังจากนั้นจะมีการชวนทานอาหาร แต่หมายเลข 10 กับบอกว่า "คนใหม่ยังไม่ต้องร่วมทานก็ได้" ทำให้จูซิ่วที่ไม่อยากทานได้ขอตัวกลับ เฉินเกอจึงกลับด้วยและสงสัยว่า หมายเลข 10 น่าจะรู้จักตน

เฉินเกอจึงลงลิฟต์ไปกับจูซิ่ว ในระหว่างลงลิฟต์ เขาได้ปลุกจางหย่าให้ตื่นมา จางหย่าจึงจัดการจูซิ่วจนเสียสติไป แล้วเฉินเกอจึงย้อนกลับไปชั้น 24 เพื่อจัดการกับคนในสมาคมเล่าเรื่องพิศวง แต่พอไปถึงกับเหลือแค่คนเฝ้าประตูที่กำลังจัดการกินศพคนอยู่ คนเฝ้าประตูที่มีผีสิงจึงพุ่งเข้ามาหมายจะจัดการกับเฉินเกอ แต่โดนจางหย่าจัดการไปแทน

ผู้กองหลี่ที่แอบตามเฉินเกอมาจึงได้จับตัวจูซิ่วไป ในขนาดที่กู้เฟยอวี่ รปภ.ที่เข้าเวรกับโดนผู้ดูแลอาคารหวงต่อว่าเรื่องที่ปล่อยให้คนนอกเข้ามาในตึกได้ เฉินเกอจึงชวนกู้เฟยอวี่ให้มาทำงานที่คฤหาสน์สยองขวัญ แล้วพอดีผู้กองเหยียน (คนที่รับผิดชอบคดีผู้ป่วยอาคาร 3)ได้โทรมาหา ส่งรูปผู้ต้องสงสัยมาให้คนหนึ่ง เฉินเกอที่เห็นรอยแผลจากบุหรี่ จึงจำได้ว่า "เป็นหมายเลข 6" ก่อนทราบว่า "อีกฝ่ายคือผู้จัดการสถานีวิทยุยามดึกที่ลี่จือทำงานอยู่"

แล้วโทรศัพท์สีดำยังมีข้อความส่งมาให้เฉินเกอว่า "สามารถเลือกปลดฉากสยองขวัญ 4 ดาวได้ แต่จางหย่าจะอยู่ได้เฉพาะในฉากหรือปลดฉาก 2 ดาว แต่จางหย่าจะสามารถไปที่ไหนก็ได้" เฉินเกอจึงเลือกปลดฉาก 2 ดาวแทน

วันต่อมาประธานหลอ (เจ้าของสวนสนุก) ได้มาบอกเฉินเกอว่า "จะลองเสี่ยงด้วยการลดราคาค่าเข้าสวนสนุกและลงทุนโฆษณาดู" ให้เฉินเกอเพิ่มฉากและเงินรางวัลสำหรับคนที่เคลียร์ได้ทุกฉากเป็น 200,000 หยวน โดยเฉินเกอจะต้องเป็นคนจ่าย ซึ่งเขาก็รับปาก

เมื่อเฉินเกอฟังรายการวิทยุยามดึก ได้ฟังลี่จือเล่าถึงคนขับแท็กซี่ยามดึกที่ไปรับผู้โดยสารคนหนึ่งจากซอยฮว๋ายฮวา บอกไปหาของที่หาย หลังจากหาไปหลายที่ จึงไปหยุดที่ณาปนสถาน พอผู้โดยสารหาเจอ มันกับมุดเข้าร่างคนขับแท็กซี่ ส่วนคนขับรถถูกมันขังไว้ในหีบบรรจุเถ้ากระดูกที่หายไป พอได้ฟังแล้วเฉินเกอจึงคว้าเครื่องบันทึกเสียงซ้ำและเทพปากกา ทั้งยังหยิบค้อนทุบกะโหลกออกไปทันที

เฉินเกอเรียกแท็กซี่ไปยังซอยฮว๋ายฮวาทันที แต่เหล่าหลิวคนขับแท็กซี่ที่จำได้ว่า "เฉินเกอเคยให้ตนไปส่งที่โรงเรียนร้างยามดึก" จึงตกใจ พอไปถึงซอยฮว๋ายฮวารีบให้เฉินเกอลงอย่างรวดเร็วแล้วขับรถหนีทันที โดยลืมเก็บค่าโดยสาร และยังรับผู้โดยสารที่วิ่งออกมาจากซอยฮว๋ายฮวาด้วยคนหนึ่ง เฉินเกอที่เห็นจึงตกใจรีบเรียกแท็กซี่อีกคันตามไปทันที

เหล่าหลิวพาผู้โดยสารไปยังณาปนสถาน ด้วยความกลัวจึงรออยู่ในรถ พอผู้โดยสารกลับมาจึงออกรถกลับ แต่เหล่าหลิวกับเห็นถึงสิ่งที่ผู้โดยสารเอามาคือหีบบรรจุเถ้ากระดูก แถมหน้าคนในรูปถ่ายกับเป็นใบหน้าเดียวกับผู้โดยสารอีกจึงตกใจ พอมีข้อความจากแท็กซี่ที่เฉินเกอนั่งส่งมาบอกผู้โดยสารเป็นผีให้รีบหนี เหล่าหลิวจึงจอดรถแล้ววิ่งหนีทันที แต่ผู้โดยสารหรือผู้จัดการสถานีวิทยุที่วิ่งตามกับปล่อยยังเงาผอมสูงออกมาพยายามสิงร่างเหล่าหลิว

เฉินเกอที่มาทันจึงเอาค้อนทุบเงาผอมสูง เมื่อผู้โดยสารจึงวิ่งหนีไป เฉินเกอจึงไล่ตาม จนสุดท้ายผู้จัดการสถานีจึงหันกลับมา เงาผอมสูงจึงพุ่งเข้ามาหาหมายจะสิงร่างเฉินเกอแทน แต่เฉินเกอได้เปิดเครื่องบันทึกเสียงซ้ำเล่นเทปคาสเซ็ตให้สวี่ยิน ผีอาฆาตออกมาจัดการเงาผอมสูง เมื่อสวี่ยินกินเงาผอมสูงเข้าไป เฉินเกอสังเกตได้ว่า "ชุดของสวี่ยินมีสีแดงเพิ่มขึ้น" ก่อนเฉินเกอจะรีบตรงไปยังสถานวิทยุ เพื่อจัดการกับลี่จือที่มีเงาผอมสูงสิงอีกคนหนึ่ง ก่อนที่จะให้ผู้กองเหยียนตามมาจับผู้จัดการสถานีและลี่จือที่เสียสติไป

ด้านกู้เฟยอวี่ที่ลองมาทำงานที่คฤหาสน์สยองขวัญวันแรก พวกหยางเฉิน หวังเหยียนและหลี่เสวี่ย 3 นักศึกษาจากคณะนิติเวชมหาลัยจิ่วเจียงที่มีแผนที่จากเพื่อนๆและรุ่นพี่ที่ทำไว้ได้มาท้าทาย ในกลุ่มยังมีคู่รักอีกคู่กับเว่ยอู่และข่งเสียงหมิงที่เป็นสมาชิกของสมาคมเล่าเรื่องพิศวงที่ต้องการมาเล่นงานเฉินเกอ

พวกหยางเฉินทั้ง 3 คนได้เข้าไปในฉากใหม่โรงเรียนเอกชนซีเฉิงที่เพิ่มขึ้นมาโดยไม่มีในแผนที่ จึงเข้าไปเพื่อหาบัตรนักเรียนให้ครบ และสงสัยว่า "เว่ยอู่และข่งเสียงหมิงอาจจะเป็นพนักงานปลอมตัวมา" จึงพยายามระมัดระวังทั้ง 2 ส่วนคู่รักกับทะเลาะกันจนแยกหายไป

พอพวกหยางเฉินทั้ง 3 คนเข้าไปในห้องแรกมีศพแขวนคอ แต่ไม่พบอะไรจึงออกมา ไปยังห้องที่ 2 ที่มีกลิ่นเหม็น จนพบศพที่ถูกห่อในถุงพลาสติกจึงตกใจกลัวพากันวิ่งหนีมาพบผีร่างอ้วนที่ชอบสะสมขยะดักรออยู่จึงตกใจ ก่อนตัดสินใจวิ่งหนีออกมาพบเว่ยอู่และข่งเสียงหมิง ข่งเสียงหมิงจึงมุ่งหน้าต่อไปหาผีร่างอ้วน เพื่อจับกิน ส่วนเว่ยอู่กับเผยยังใบหน้าโลหิตออกมา เพื่อจะกินพวกหยางเฉินทั้ง 3 แต่พวกหยางเฉินกับคิดว่า "เป็นการแสดง" จึงจะยอมแพ้ แต่ใบหน้าโลหิตยังไม่หยุด คิดที่จะกินทั้ง 3 คน

เฉินเกอที่มาถึงจึงใช้ค้อนทุบกะโหลกจัดการกับใบหน้าโลหิตของเว่ยอู่แล้วเรียกสวี่ยินออกมา ทำเอาเว่ยอู่ต้องรีบหนีไปหาข่งเสียงหมิงทันที เฉินเกอยังให้กู้เฟยอวี่มาพาพวกหยางเฉินทั้ง 3 กลับออกไปก่อนจะตามไปจัดการกับเว่ยอู่และข่งเสียงหมิง ข่งเสียงหมิงจึงให้เว่ยอู่รับมือกับผีร่างอ้วนก่อนหันกลับมาเล่นงานเฉินเกอ แต่เว่ยอู่ที่สู้ผีร่างอ้วนไม่ไหว จึงวิ่งหนีทิ้งข่งเสียงหมิงไว้ ทำให้เฉินเกอใช้สวี่ยิน ผีร่างอ้วนและผีแขวนคอจัดการกับใบหน้าโลหิตของข่งเสียงหมิงก่อนที่จะไล่ตามไปจัดการกับเว่ยอู่ได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะจับตัวเว่ยอู่กับข่งเสียงหมิงไปขังไว้ก่อน แล้วจึงไปหลอกคู่รักที่ทะเลาะกันจนคืนดี สร้างความประทับใจให้กับกู้เฟยอวี่จนตัดสินใจมาทำงานกับเฉินเกออย่างจริงจัง แล้วหลังเลิกงานจึงพาเว่ยอู่กับข่งเสียงหมิงไปส่งกองปราบของผู้กองเหยียน

แต่เฉินเกอถึงแม้จะบอกป้องกันตัว แต่กับทำร้ายเว่ยอู่กับข่งเสียงหมิงจนหมดสติ จึงโดนหลี่เจิ้ง นายตำรวจที่ไม่พอใจสอบสวน ก่อนที่กู้เฟยอวี่ที่กับไปพักที่ชุมชนฟางหัวย่วนจะโทรมาขอความช่วยเหลือ เฉินเกอจึงรีบบอกให้ผู้กองเหยียนรีบไปช่วยทันที ส่วนเขารีบกับคฤหาสน์สยองขวัญก่อน เพื่อไปเอาเทปคาสเซ็ตกับเทพปากกา

แต่พอเฉินเกอมาถึงตึก 3 ชุมชนฟางหัวส่วนกับพบสายสืบล่วงหน้าขึ้นไปกลุ่มแรกถ่ายภาพโทรศัพท์ที่มีข้อความส่งถึงเขามา ก่อนที่สายสืบคนแรกที่พบโทรศัพท์จะหมดสติไป เฉินเกอจึงรีบบุกไปกับตำรวจกลุ่มที่ 2 ที่นำโดยหลี่เจิ้งทันที พบสายสืบคนหนึ่งโดนเพื่อนสายสืบที่เก็บโทรศัพท์ที่มีข้อความทำร้ายก่อนวิ่งหนีไป หลี่เจิ้งที่นำทีมจึงพาตำรวจบุกขึ้นไปทีละชั้น แต่เฉินเกอจึงถามถึงตำแหน่งจากโทรศัพท์ กู้เฟยอวี่จึงตอบมาว่า "ห้อง 3239" เฉินเกอจึงขึ้นลิฟต์ไปชั้น 23 ทันที

พอเฉินเกอไปถึงห้อง 3239 จึงเคาะประตูถามดู พบผัวเมียคู่หนึ่งบอกว่า "ห้องซ้ายขวาไม่มีคน มีแต่ห้องฝั่งตรงข้าม" พอเฉินเกอถามอีกจึงรู้ว่า "ชายในห้องฝั่งตรงข้ามเคยขึ้นลิฟต์คืนวันพุธ" จึงสงสัยว่า "น่าจะเป็นสมาชิกสมาคมเล่าเรื่องพิศวง" แต่เฉินเกอกับสงสัยผัวเมียคู่นี้ เพราะเหมือนจะล่อให้เขาไปยังห้องตรงข้ามจึงเปิดประตูห้อง 3239 แทนพบวิญญาณเด็ก 2 คนที่เป็นผีอาฆาตอาภรณ์แดงปรากฏตัวออกมาพร้อมกับชายที่ใบหน้าเสียโฉม เพราะไฟไหม้หรือผู้ป่วยห้อง 10 ที่ชื่อปีศาจ อีกทั้งผัวเมียยังปล่อยหน้าโลหิตกับเงาร่างผอมสูงออกมา ทำเอาเฉินเกอต้องรีบเรียกยังจางหย่าออกมาทันที

ชายเสียโฉมที่เห็นท่าไม่ดีจึงใช้หีบไม้ใบหนึ่งที่มีคราบเลือด ทำเอาผีอาฆาตทุกตัวออกอาการสูญเสียการควบคุมแล้ววิ่งออกไป จางหย่าจึงตามชายเสียโฉมไปทันที

เฉินเกอจึงได้แต่ใช้สวี่ยินและเฉินหย่าหลิน (เทพปากกา) รับมือกับผีอาฆาตทั้ง 4 ทันที แต่ทั้ง 2 ไม่สามารถรับมือได้ เฉินเกอจึงคิดวิ่งหนีไปหาตำรวจที่กำลังขึ้นมากับพบยังผู้ดูแลหวงบอกจะพาหนี แต่เฉินเกอกับสงสัยผู้ดูแลหวงจึงถอยหนี ทำเอาผู้ดูแลหวงเผยยังหน้าโลหิตออกมา

เฉินเกอจึงใช้วิทยุเรียกตำรวจให้รีบขึ้นมาชั้น 23 ทันที ทำเอาผู้ดูแลหวงโกรธหมายจะจัดการเฉินเกอ แต่จางหย่าที่จัดการชายเสียโฉมเปลี่ยนเป็นตุ๊กตาในหีบกับโผล่มากำจัดและกินหน้าโลหิตของผู้ดูแลหวง ก่อนจะกินเด็กผีอาฆาตอาภรณ์แดง 2 ตัว หน้าโลหิตและเงาผอมสูงไปจนหมดก่อนที่จะหายไป เมื่อเฉินเกอมองไปยังเงาของตนเองกับกลายเป็นเงาของหญิงสาวผมแดง เขาจึงไม่กล้านินทาจางหย่าอีก

*ส่วนห้องที่อยู่ตรงข้ามห้อง 3239 มีภาพที่วาดด้วยเลือดสามารถสะกดผีอาฆาต


พอตำรวจมาถึงก็จับตัวผัวเมียและผู้ดูแลหวงที่หมดสติไป ส่วนกู้เฟยอวี่กับรปภ.อีกคนที่หมดสติอยู่ในห้อง 3239 ก็ถูกพาไปโรงพยาบาลพร้อมกับตำรวจที่หมดสติ แต่อยู่ๆกับมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ของกู้เฟยอวี่ว่า "เฉินเกอ ฉันจำชื่อคุณเอาไว้แล้ว" เฉินเกอที่เดาว่า "สมาชิกสมาคมเล่าเรื่องพิศวงน่าจะเหลืออยู่อีกคนที่เฝ้ามองดูอยู่" เฉินเกอจึงสงสัยยังสายสืบที่พบโทรศัพท์คนแรกแล้วสลบไป จึงไปดักรออีกฝ่าย

เมื่อสายสืบที่มีเศษเสี้ยวดวงวิญญาณแฝงไว้ฟื้นขึ้นมาพยายามหลบหนี แต่เจอเฉินเกอมาดักไว้จึงพยายามต่อรอง เพื่อเอาตัวรอด แต่กับมีตำรวจคนอื่นได้รับการแจ้งความจึงรีบตามมา ทำเอาสายสืบวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วกระโดดมาฆ่าตัวตายต่อหน้าทุกคน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาส่งเฉินเกอที่สวนสนุก

วันรุ่งขึ้นมีโทรศัพท์จากสถานีเลี้ยงเด็กกำพร้าโทรมาหาเฉินเกอเรื่องฟ่านอวี้ (เด็กชายที่วาดรูปผี) บอกว่า "ได้พี่สาวบุญธรรมเป็นแมงมุม" ทำเอาเฉินเกอต้องไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พบผู้อำนวยการที่ต้องการให้เขารับฟ่านอวี้กลับไปดูแล เพราะคิดว่า "เป็นญาติ" แต่เฉินเกอปฏิเสธ เพราะเขายังมีศัตรูคือสมาคมเล่าเรื่องพิศวงที่เหลืออีก 3 คน แต่กับพบเด็กสาวคนหนึ่งร้องไห้บอกพี่สาวที่เป็นแมงมุมโดนเด็กผู้ชาย 2 คนเหยียบตาย จนฟานอวี้ต้องปลอบ และบอกว่า "พี่สาววิ่งไปด้านหลังเฉินเกอแล้ว