(สปอย์) เมื่อผมเป็นเจ้าของคฤหาสน์สยองขวัญ เล่ม 5
เฉินเกอ (พระเอก) ที่ได้ไปยังคฤหาสน์สยองขวัญโรงพยาบาลทาฟูจิ เพราะอีกฝ่ายได้โฆษณาว่า "คฤหาสน์สยองขวัญของเขาแห่งนี้น่ากลัวกว่าของที่มีอยู่ในเมืองซินไห่ (หรือของเฉินเกอ)" โดยรับการท้าทายจากกัวเหมี่ยว (ผู้ดูแลบ้านผีสิงโรงพยาบาลทาฟูจิ) เข้าไปทดสอบดู
เมื่อเฉินเกอได้เข้าไปเล่นก็จัดการขังยังผีรปภ.ใส่เข้าไปในตู้เป็นคนแรก แล้วเข้าไปหากุญแจผ่านห้องต่อไป โดยไม่สนใจยังผีสาวที่ซ่อนอยู่ในกองศพปลอม ทั้งยังทำให้คนที่แสดงเป็นศพคนตายกับผีสาวไม่มีขาบนรถเข็นต้องหวาดกลัว เพราะเฉินเกอที่พบว่า "ที่นี่มีเครื่องเล่นเทปรุ่นเก่า" จึงเอาเทปคาสเซ็ตผีอาฆาตของตนใส่เข้าไปแล้วเปิดขึ้น
ประกอบกับฉากโรงพยาบาลทาฟูจิแห่งนี้ได้ใช้พอร์ดจากเรื่องจริงเมื่อ 4 ถึงหญิงสาวชื่อสวี่เจินเจินที่ฆ่าตัวตายในโรงพยาบาลที่พ่อเป็นผู้อำนวยการ เมื่อเสียงจากเทปคาสเซ็ตส่งเสียงออกมาถึงความเจ็บปวด ทำเอาพนักงานทุกคนที่ได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดเดินไปมาในโรงพยาบาลทาฟูจิ รู้สึกหวาดกลัวนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่วิญญาณของสวี่เจินเจินที่เคยหลอกทุกคนจากการใช้ฉากโรงพยาบาลทาฟูจิอีกครั้ง จนต้องรีบหนีออกไปทิ้งเฉินเกอไว้เพียงคนเดียว
เฉินเกอเดินตามเสียงของผีอาฆาตในเทปคาสเซ็ตไปยังหุ่นผีสาวตัวหนึ่ง ที่มีวิญญาณของสวี่เจินเจินอยู่ ก่อนที่ผีอาฆาตตัวนั้นจะทำลายหุ่นผีสาวที่แขวนไว้จนพอใจก่อนที่จะเงียบหายไป พร้อมกับเฉินเกอยังได้รับภารกิจลับจากโทรศัพท์สีดำที่กระตุ้นให้สวี่ยิน (ผีอาฆาตในเทปคาสเซ็ต) รู้สึกดีขึ้น คือต้องไปทำธุรกิจที่เขตชุมชนฟางหัวย่วน โดยการตามหาคนรักของสวี่ยิน โดยมีคำใบ้คือสีขาว สีดำ สีแดงคุณชอบสีไหนมากกว่ากัน
นอกจากนี้ผู้กองเหยียน (รับผิดชอบคดีอาคารผู้ป่วยตึกที่ 3) ยังได้โทรมาหาเขาว่า "ผู้ต้องสงสัย 3 คนที่เจอในอาคารผู้ป่วยตึกที่ 3 ได้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน" และยังมีรูปแอบถ่ายตัวเฉินเกออีกด้วย จึงอยากให้เขาระมัดระวังตัวไว้ เพราะมีคนป่วยอีก 3 คนที่ยังหายสาบสูญไปอยู่ และหญิงสาวที่เป็นผู้ป่วยในห้องที่ 2 ก็ได้หายตัวไปแถวๆชุมชนฟางหัวย่วน เฉินเกอจึงตัดสินใจจะไปที่นั่น เพื่อทำภารกิจของสวี่ยินด้วยในเวลาเดียวกัน
ตกดึกเฉินเกอได้ไปชุมชนฟางหัวย่วน พอไปพบรปภ.จึงเอารูปของผู้ป่วยห้องที่ 2 ที่มีอาการเสพติดศัลยกรรมที่ได้ข่าวว่าปรากฏตัวที่นี่ให้กับเขาดูเพื่อถามหา แต่รปภ.หนุ่ม กู้เฟยอวี่กับไม่ให้ความร่วมมือ ก่อนที่รปภ.ชราจะมาตอบเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นคือ หญิงสาวคนนั้นแซ่ไป๋ มีคนเห็นเงาร่างสูงใหญ่ที่หน้าห้องของหญิงสาวแซ่ไป๋ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปในห้องแล้วหญิงสาวแซ่ไป๋ก็หายไป และทราบว่าเธอพักอยู่ที่อาคาร 3 ชั้น 13 ห้อง 3
เฉินเกอจึงทำเป็นขึ้นไปถามอาการของหวังซิน (หญิงสาวที่เป็นคนที่รอดเพียงคนเดียวจากโรงเรียนมัธยมมู่หยาง) ที่พักอยู่อาคาร 3 เช่นเดียวกัน ระหว่างทางเขาได้พบกับหญิงสาวสวมรองเท้าสีแดง สวมแมสก์และหมวกปิดหน้าปิดตา ทั้งยังได้กลิ่นน้ำยาในโรงพยาบาลเดินสวนกัน แต่ไม่กล้าเดินตามไปมากมายนัก เพราะกลัวจะมีปัญหาจึงย้อนกลับขึ้นไปยังห้องของหวังซิน และทราบจากแม่บุญธรรมของหวังซินที่เห็นกับตาถึงผีเงาสีขาวตัวนั้น
เฉินเกอที่ได้ข้อมูลจึงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 13 เพื่อไปยังห้องนั้นกับพบถึงใบประกาศขาย พอเขาโทรไปจึงทราบว่า "ผู้ขายเป็นพี่สาวของหญิงสาวแซ่ไป๋ที่หายตัวไป" เขาจึงไปหาอีกฝ่ายที่อพาร์ทเม้นท์ซินคัง พบอีกฝ่ายที่หัวโล้น ไม่มีคิ้วบอกว่า "ป่วยเป็นโรคมะเร็งต้องทำการบำบัด" แต่จากฉลากยาที่เฉินเกอพบกับเป็นยาสมานแผลและป้องกันการแพ้ จึงโทรหาผู้กองหลี่ (คนที่เขารู้จัก)ให้ส่งคนมาเฝ้าพี่สาวของหญิงสาวแซ่ไป๋ทันที เพราะข้อมูลของเธอตรงกับผู้ป่วยห้องที่ 2 ของอาคาร 3
เฉินเกอได้ย้อนกลับไปชุมชนฟางหัวย่วน ได้แอบเข้าไปในห้องที่ 3 ชั้น 13 ตึก 3 แต่ในระหว่างที่เขากำลังหาหลักฐานอยู่นั้นกลับพบยังหญิงสาวที่ปิดหน้าหลอกยังกู้เฟยอวี่เข้ามาในห้อง โดยบอกว่า "เป็นน้องสาวของหญิงสาวที่หายตัวไป" แต่กลับวางยากู้เฟยอวี่และพยายามจะฆ่าเขา เพราะคล้ายกับคนรักเก่าของเธอคือสวี่ยิน ทั้งยังเล่าว่า "เธอและพี่สาวต่างหลงรักเขาทั้งคู่" จึงตกลงแบ่งปันเขาโดยการผ่าคนละครึ่ง
เฉินเกอจึงรีบออกมาช่วยกู้เฟยอวี่ทันที โดยเอาเก้าอี้ทุบหญิงสาวที่ปิดหน้าหรือหญิงสาววิกลจริตผู้ป่วยในห้องที่ 2 จนหมวกหลุดให้เห็นถึงหัวที่โล้น ในขณะเดียวกันสวี่ยินก็ออกมาจัดการกับเงาสีขาวในร่างของหญิงสาววิกลจริต แต่พอเห็นหน้าของเธอ สวี่ยินก็จดจำได้ว่า "หญิงสาววิกลจริตคือคนรักของเขา" เฉินเกอจึงใช้มีดฆ่าหมูพุ่งเข้าไปฟันใส่เงาร่างสีขาวจนมันได้หลบหนีไป ทิ้งกระดาษครึ่งแผ่นที่เป็นใบปลิว "สมาคมเรื่องเล่าพิศวง"ไว้ เฉินเกอจึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัยว่า "เกี่ยวข้องกับโลกหลังประตูหรือเปล่า" แต่ก็ยังได้ยินเสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาจากในเทปคาสเซ็ตด้วย จึงทำให้เขาได้ทำภารกิจผีอาฆาตของสวี่ยินเสร็จสมบูรณ์จนสามารถจ้างเขาเป็นพนักงานได้
วันต่อมาหวังไห่หมิงพาน้องชายหวังเซ็งหลง (ที่เคยรักษาที่อาคารผู้ป่วยอาคาร 3 แล้วมีเงาสีขาวตามมา)ได้มาบอกกับเฉินเกอว่า "ตนชนะพนัน เงาสีขาวได้จากไปแล้ว"
เฉินเกอได้ไปพบประธานหลอเจ้าของสวนสนุกขอสร้างจุดพักผ่อนให้นักท่องเที่ยว (เพราะภารกิจที่ได้จากโทรศัพท์สีดำ) แต่ประธานหลอกับไม่ตอบรับ พร้อมทั้งเปิดยังวีดีโอโฆษณาของสวนสนุกแห่งใหม่ที่จะเปิดอีก 2 เดือนข้างหน้าให้ดู ซึ่งมันอาจจะทำให้สวนสนุกแห่งนี้ต้องปิดตัวลง ประธานหลอยังบอกอีกว่า "คนส่วนมากที่มาที่สวนสนุกในตอนนี้ เพราะมาคฤหาสน์สยองขวัญของเฉินเกอ" ตนจึงจะลดค่าเข้าสวนสนุกลง แต่เฉินเกอสามารถเพิ่มยังค่าเข้าคฤหาสน์สยองขวัญได้
แล้วเฉินเกอจึงไปปั้นหุ่นเพิ่ม เพื่อเตรียมสำหรับฉากตึกผู้ป่วยอาคาร 3 ที่เพิ่มเข้ามา เถ้าแก่เฉียน (เจ้าของร้านหุ่นจำลอง) กลับเห็นหุ่นสาวจำลองของเฉินเกอกระพริบตาใส่ ส่วนป๋ายหู่ (แมวขาวของเฉินเกอ) ก็ข่วนใส่หุ่นสาวจำลอง จึงทำให้เขาทราบว่า "มีอะไรบางอย่างสิงอยู่ในหุ่นตัวนี้"
ต่อมากัวเหมี่ยวจากคฤหาสน์สยองขวัญโรงพยาบาลทาฟูจิได้พาหานชิวหมิง (คนออกแบบฉาก) เยี่ยเสี่ยวซิน (นักรีวิวคฤหาสน์สยองขวัญทางเน็ต) ซ่งอาน (พนักงานเล่นเป็นศพ) ตู้เช่าจิ้น (พนักงานเล่นเป็นผีรปภ.) และซูลั่วลั่ว (นักท่องเที่ยวผู้โชคดี) มาเล่นคฤหาสน์สยองขวัญของเฉินเกอ ตอนแรกกัวเหมี่ยวขอความสยองระดับกลาง เฉินเกอจึงจะให้เล่นฉากโรงเรียนมัธยมมู่หยาง แต่หานชิวหมิงไม่พอใจจึงขอเล่นฉากตึกผู้ป่วยอาคาร 3 ที่น่ากลัวที่สุดแทน เฉินเกอจึงตอบรับ โดยมีกติกาคือใน 20 นาทีให้เอาเครื่องเสียงเทปที่เขาหยิบมาจากโรงพยาบาลทาฟูจิออกมาได้ ถือว่า "ทุกคนชนะ"
ในตอนแรกที่หานชิวหมิงเข้าไปก็ติยังการออกแบบที่ไม่สมจริงของฉาก แต่พอเข้าไปเรื่อยๆเขาก็เริ่มรู้สึกว่า "มันสมจริงขึ้นเรื่อยๆ" ด้านตู้เช่าจิ้นที่เจอหุ่นนักเรียนตามมาทุกครั้งที่หันกลับไป จนใกล้ขึ้นเรื่อยๆจึงหวาดกลัว แต่หานชิวหมิงที่โกรธที่อ่านรูปแบบผิดที่หุ่นเข้ามาใกล้กว่า 3 เมตร (จากที่บอกว่า 5 เมตร) จึงไปดึงหัวหุ่นนักเรียนทั้ง 20 กว่าตัวออก เพื่อหาพนักงานที่แอบแฝงตัวอยู่ แต่พอไม่พบจึงหาเหตุผลแถออกไป
ด้านกัวเหมี่ยวอยากให้ทุกคนเกาะกลุ่มกัน แต่เยี่ยเสี่ยวซินที่อยากดูอย่างละเอียดจนเดินช้าปล่อยให้ทุกคนเดินนำหน้าไป หานชิวหมิงที่จะเกาะแกะหญิงสาวจึงอยู่เป็นเพื่อน ก่อนที่ทั้ง 2 จะไปห้องผู้อำนวยการแล้วพบทางลับหลังตู้ก่อนไปเจอยังเครื่องเล่นเทป พอได้เครื่องเล่นเทปในขนาดที่หานชิวหมิงกำลังเดินกลับไปกับได้ยินเสียงดังที่ข้างหูแต่ไม่สนใจ แต่เยี่ยเสี่ยวซินกับเห็นเงาร่างหญิงสาวบนหลังหานชิวหมิงจึงตกใจกลัววิ่งหนี
ด้านพวกกัวเหมี่ยวยิ่งเห็นรอยเลือดยิ่งเหมือนของจริง ประกอบกับซ่งอานเคยได้ยินข่าวอาคารผู้ป่วยตึกที่ 3 มาจึงสงสัยเฉินเกอจะเคยเป็นผู้ป่วยที่นั่น จากการทำฉากที่สมจริง ในขนาดที่กัวเหมี่ยวที่ทราบเรื่องที่พ่อแม่เฉินเกอหายตัวไป จนกลัวเฉินเกอเป็นคนลงมือสังหารจึงรีบออกตามหาหานชิวหมิงกับเยี่ยเสี่ยวซินที่หายไปทันที ก่อนที่จะเข้าไปห้องผู้ป่วยห้องที่ 10 พบยังคำขีดเขียนระบายความเจ็บปวดของผู้เขียนที่คิดจะฆ่าคน และเห็นถึงใบหน้าประหลาดบนกำแพงจนตกใจทรุดลงนั่ง เห็นถึงใบปลิวสมาคมเรื่องเล่าพิศวง ที่บอกถึงวิธีเข้าจึงหยิบมาดูก่อนที่จะรีบเอาเก็บกลับไปในปากบนใบหน้า แล้วรีบตามหาทั้ง 2 คนต่อทันที
ก่อนที่จะพบเยี่ยเสี่ยวซินที่ตกใจวิ่งหนียังเฉินเกอที่สวมชุดคุณหมอโชกเลือดตามมา ทำเอาซ่งอาน ตู้เช่าจิ้นและซูลั่วลั่วที่ตกใจวิ่งหนีจนไปติดอุโมงค์ทางเดิน จนเฉินเกอต้องช่วยดึงทั้ง 3 แล้วพาออกมาพบยังกัวเหมี่ยวกับเยี่ยเสี่ยวซินที่หนีออกมาก่อน เฉินเกอจึงต้องไปตามหาหานชิวหมิงเป็นคนสุดท้าย
หานชิวหมิงที่ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกระซิบที่ข้างหู จนทนไม่ไหวจึงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายดูเห็นถึงใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งคือใบหน้าของสวี่เจินเจิน จึงตกใจกลัวรีบทิ้งเครื่องเล่นเทปวิ่งหนีไป พอเฉินเกอไปช่วย หานชิวหมิงได้เห็นถึงใบหน้าที่เฉินเกอแต่งเหมือนผีก็ตกใจกลัวน้ำลายฟูมปากหมดสติไป เฉินเกอจึงได้แต่แบกหานชิวหมิงออกมา จึงทำให้ทุกคนรู้ถึงความน่ากลัวของคฤหาสน์สยองขวัญของเขา จึงทำให้นักท่องเที่ยวต้องเลือกเล่นจากระดับความกลัวระดับ 1-2 ก่อนเท่านั้น
พอเฉินเกอกลับไปห้องผู้ป่วยห้องที่ 10 อีกครั้งจึงเห็นใบปลิวและทราบว่า "สมาคมเล่าเรื่องพิศวง" อยู่ที่ชั้น 24 ของตึก 3 ในชุมชนฟางหัวย่วนที่มีเพียง 23 ชั้น ทั้งยังรู้วิธีเข้า
ต่อมาผู้กองเหยียนได้โทรมาบอกถึงสมาคมเล่าเรื่องพิศวงน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีหลายคดี ในขนาดที่ผู้กองหลีได้โทรมาหาเขาให้ไปสถานีตำรวจเดี๋ยวนี้ พอเฉินเกอไปหาจึงทราบจากผู้กองหลีว่า "คนที่บีบคั้นให้จางหย่า (ผีอาฆาตอาภรณ์แดง) กระโดดหน้าต่างฆ่าตัวตายคือพนักงานที่ชื่อจูซิ่ว" และทุกก่อนเที่ยงคืนวันอังคารจูซิ่วมักจะไปที่ตึก 3ในชุมชนฟางหัวย่วน จึงทำให้เฉินเกอทราบว่า "จูซิ่วกำลังหาวิธีเข้าสมาคมเล่าเรื่องพิศวง" อยู่
ตกดึกที่คืนนี้เป็นคืนวันอังคาร เฉินเกอจึงไปที่ตึก 3 ชุมชนฟางหัวย่วน เขาได้พบกู้เฟยอวี่ที่เข้าเวรอยู่ จึงขอให้อีกฝ่ายช่วยคือ ถ้าเกิดเฉินเกอโทรมา แต่ไม่พูด ให้กู้เฟยอวี่ช่วยโทรเรียกตำรวจให้ทันที กู้เฟยอวี่ที่สำนึกบุญคุณที่เฉินเกอเคยช่วยชีวิตไว้จึงรับปาก
เฉินเกอจึงขึ้นลิฟต์ไปตามวิธีการในใบปลิวจนไปถึงชั้นที่ 24ได้ แต่ระหว่างทางเจอคนแก่ที่นะเข้าลิฟต์กับบอกลิฟต์เติมทั้งๆที่มีเพียง เฉินเกออยู่คนเดียวในลิฟต์ ก่อนเขาที่ได้สวมหน้ากากเข้าไปในสมาคมเล่าเรื่องพิศวงด้วยความตกใจของทุกคน เพราะเขาเป็นหน้าใหม่คนที่ 4 ทั้งที่ควรมีแค่ 3 คนเท่านั้น