(สปอย์) อริสเทีย จักรพรรดินีผู้ถูกลืม เล่ม 4
อริสเทีย (นางเอก) ที่ถูกวางยาพิษได้สลบไปถึง 3 เดือนก่อนที่จะได้รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ยังคงรับรู้ได้ถึงเคย์เรียน (มาร์ควิสโมนิก/พ่อนางเอก) และคาร์เซน (เพื่อนนางเอก/1 ใน 2 อัจฉริยะของจักรวรรดิ/นักดาบอัจฉริยะ) ที่คอยดูแลเอาใจใส่ อีกทั้งเธอยังรู้สึกได้ถึงรูบริส (พระเอก/รัชทายาท) ที่ได้มาเยี่ยมและแสดงถึงความรัก เพราะกลัวสูญเสียเธอไปออกมา ก่อนที่ท่านอัครสาวกเซ็กคันดัส (อดีตอัครสาวกเทอร์ทิอัสที่เลื่อนตำแหน่งได้เปลี่ยนชื่อ) จะถูกเรียกตัวกลับมาใช้เวทมนต์รักษาเธอ แต่ถึงสามารถจะรักษาชีวิตของอริสเทียเอาไว้ได้ แต่อาจส่งผลข้างเคียงทำให้เธอไม่สามารถมีบุตรได้ ทำให้อริสเทียฉุกใจคิดว่า "ชาติก่อนเธอน่าจะโดนวางยาพิษเช่นกัน"
พออริสเทียที่ฟื้นขึ้นมาก็ได้ทราบว่า "องค์จักรพรรดิที่ทราบข่าวว่าเธอโดนวางยาพิษก็ได้ล้มป่วยลง" เธอจึงได้ขอเข้าเฝ้า ซึ่งก็ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้า และพบยังรูบริสที่อยู่ด้วย ในขนาดที่ดยุกเชนาและจีอึน (หญิงสาวที่เป็นผู้ถูกเลือกตัวจริงและได้แต่งงานกับรูบริสในชาติก่อน) กับโดนปฏิเสธไม่ให้เข้าเฝ้า
ต่อมาไม่นานได้มีสาส์นจากราชวังเรียกตัวขุนนางและเชื้อพระวงศ์ระดับสูงให้เข้าเฝ้าเป็นครั้งสุดท้าย อริสเทียที่ได้เข้าเฝ้าพร้อมกับเคย์เรียน เป็นลำดับที่ 3 องค์จักรพรรดิได้ตรัสว่า "เขาอยากเห็นอริสเทียเป็นจักรพรรดินีมากกว่ามาร์เควียเนส" และยังจะได้มอบความเมตตาครั้งสุดท้ายให้กับเธอ พอถึงลำดับต่อไปที่เป็นตระกูลดยุกเชนาที่เป็นผู้นำของฝ่ายนางเข้าเฝ้า แต่กับไม่ยอมให้จีอึนได้เข้าเฝ้า ก่อนที่จะมีข่าวองค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ออกมา ทำให้อริสเทียรู้สึกได้ถึงองค์จักรพรรดิผู้หวังดีและปกป้องเธอมาตลอดได้จากไปแล้ว
ในงานศพ อริสเทียเห็นถึงรูบริสที่มีท่าทีเย็นชาแต่ในแววตาของเขากับว่างเปล่า หลังงานพิธีศพเธอจึงขอเข้าเฝ้าและได้ปลอบโยนเขา อริสเทียได้ชวนออกไปเดินเล่นในสวนและได้นั่งพัก อริสเทียได้บอกถึงความรักขององค์จักรพรรดิที่มีต่อรูบริส ในขณะที่เขาไม่เคยทราบมาก่อนเลย รูบริสก็ได้บอกถึงสาเหตุที่เมื่อก่อนเขาเกลียดอริสเทีย เพราะแม่ของเขาแท้จริงเป็นเพียงสาวใช้ไม่ใช่องค์จักรพรรดินี เมื่อได้เห็นถึงองค์จักรพรรดินีและเจราเมีย (แม่อริสเทีย) รักเธอจึงเกิดอิจฉาและไม่พอใจ ก่อนที่รูบริสจะเผลอหลับไป อริสเทียจึงให้เขานอนหนุนตักแล้วเธอจึงเผลอหลับไปอีกคน
อริสเทียตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันต่อมาจึงได้ทราบว่า "รูบริสเป็นคนอุ้มเธอเข้ามานอนในห้อง" ก่อนที่อริสเทียจะไปทานอาหารร่วมกับรูบริส เคย์เรียนและดยุกทั้งหลายที่มาเข้าเฝ้าคุยงานกันทั้งคืน
หลังจากที่รูบริสกลายเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ ทางฝั่งขุนนางและฝั่งราชวงศ์ก็ได้มีการประชุมกันเรื่องการแต่งตั้งจักรพรรดินีของรูบริสอีกครั้ง โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่เคย์เรียนต้องออกไปรับทูตจากต่างแดน จึงทำให้อริสเทียต้องเข้าประชุมขุนนางแทนบิดา แต่กลับโดนเคานต์ฮาเมลโจมตีว่า "อริสเทียเป็นหมันไม่เหมาะสมกับตำแหน่งจักรพรรดินี" ในขนาดที่ทางฝั่งราชวงศ์ที่นำโดยดยุกราซกลับไม่มีใครสนับสนุนเธออีก แต่กับเลือกที่จะสนับสนุนเกรชบุตรสาวของตระกูลฟีร์แทน จึงทำให้อริสเทียผิดหวัง ถึงการหักหลังของฝ่ายราชวงศ์เหมือนชาติก่อน
ส่วนจีอึนก็โดนทางฝ่ายราชวงศ์คัดค้าน เพราะองค์จักรพรรดิองค์ก่อน ก่อนสิ้นพระชนม์ปฏิเสธไม่ยอมให้จีอึนเข้าพบ จึงถือว่า "ไม่ยอมรับจีอึนเป็นว่าที่จักรพรรดินี"
หลังจบการประชุมอริสเทียได้ขอเข้าพบรูบริส เพื่อบอกขอให้เขายกเลิกการหมั้นระหว่างเขาและเธอ เพราะความสัมพันธ์ของเขากับเธอมันได้จบสิ้นลง จากความประมาทหลังจากที่เธอโดนวางยาพิษไปแล้ว แต่รูบริสกับขอคิดดูก่อน
วันต่อมาอริสเทียได้เข้าร่วมประชุมอีกครั้ง อริสเทียกับโดนเคานต์ฮาเมลหาเรื่องตำหนิเรื่องการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม เธอจึงขอใช้เกียรติ์ของตระกูลโมนิกในการขอทำสงครามช่วงชิงเขตปกครองกับอีกฝ่าย ทำเอาเคานต์ฮาเมลต้องขอขมาอริสเทีย แต่เธอไม่ยินยอม จนรูบริสต้องไกล่เกลี่ยให้อีกฝ่ายเสียเหมืองแร่มรกตให้เป็นข้อแลกเปลี่ยนในการยุติเรื่อง และอริสเทียยังได้ยืนยันที่จะยกเลิกการหมั้นกับรูบริสแล้วตัดความสัมพันธ์กับฝั่งราชวงศ์ทิ้งเสีย
เมื่อกลับถึงบ้านอริสเทียได้สั่งให้รีนา (สาวใช้คนสนิท) เอายังชุดออกงานผู้หญิงทั้งหมดเผาทิ้ง เหลือไว้แต่ชุดทำงานและชุดอัศวินเท่านั้น แต่รูบริสได้รีบตามมาที่บ้านก็ได้อ้อนวอนบอกรักอริสเทีย แต่อริสเทียยังคงยืนกรานที่จะไม่ยอมรับความรักจากเขา พอรูบริสได้เห็นถึงผ้าเช็ดหน้าที่อริสเทียปักชื่อของเขา รูบริสก็คิดว่า "อริสเทียน่าจะรักเขา" แต่อริสเทียกับตอบไปว่า "เธอไม่เคยบอกว่าไม่เคยรักเขา" จึงทำให้รูบริสผิดหวังกลับไป
พอเคย์เรียนที่กลับมาแล้วทราบเรื่องก็อดที่จะเสียใจไม่ได้ที่อริสเทียเลือกที่จะสืบทอดตระกูล
ต่อมาเมื่อถึงพิธีบรรลุนิติภาวะของอริสเทีย เธอคิดที่จะกลับไปจัดพิธีบรรลุนิติภาวะที่เขตปกครองและจัดเป็นงานล่าสัตว์ขึ้น แต่กับโดนรูบริสให้จัดในเขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์แทน แต่ในระหว่างที่ล่าสัตว์กับมีหมีหลุดออกมา ทุกคนจึงให้อริสเทียขี่ม้าหนีไปก่อน แต่ม้าของเธอกับได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ก่อนที่จะเจอรูบริสที่นำพาทหารองครักษ์ขี่ม้าผ่านมา รูบริสจึงสั่งให้อริสเทียขึ้นม้าของเขาก่อนที่จะนำพากลับไปส่ง จึงทำให้อริสเทียที่อยู่ในอ้อมกอดของรูบริสต้องรู้สึกสับสนอีกครั้งหนึ่ง
อริสเทียได้วางแผนเอาคืนตระกูลดยุกเชนาที่สั่งให้สาวรับใช้ของกองอัศวินที่ 1 ลอบวางยาพิษเธอจึงรวบรวมข้อมูลเพื่อเล่นงานอีกฝ่าย โดยไปขอความร่วมมือกับดยุกราซและดยุกเวริตา (ตระกูลอันดับ 2) และยังสามารถสืบทราบได้ถึงคุณชายเชนา (บุตรผู้สืบทอดตระกูล) แอบไปเป็นชู้กับภรรยาสาวของท่านเคานต์คนหนึ่ง จึงทำให้อริสเทียบังคับให้คุณชายเชนายอมร่วมมือในการปลดดยุกเชนาลงแล้วจะดันอีกฝ่ายขึ้นเป็นดยุกแทน อริสเทียยังให้เอนเทีย (เพื่อนของเธอที่มาจากตระกูลการค้า) ขายปิ่นปักผมที่เรียบง่ายแทนปิ่นที่หรูหราและกักตุนผ้าไหมไว้ เพื่อให้ผ้าลินินที่เรียบง่ายที่เข้ากับปิ่นที่หรูหราซึ่งจีอึนกักตุนไว้ขายไม่ออก ทั้งพยายามฮุบตระกูลการค้าภายใต้การดูแลของตระกูลเชนา เป็นการตัดรากฐานของอีกฝ่ายด้วย
แต่อยู่ๆในการประชุมทางฝั่งขุนนางและฝั่งราชวงศ์กับเลือกที่จะเสนอชื่อของอริสเทียขึ้นเป็นจักรพรรดินีแทนตำแหน่งราชินี ทำเอาจีอึนต้องมาพบอริสเทียที่บ้าน เพื่อถามถึงเธอที่ทำไมเธอยังรักรูบริสทั้งๆที่อีกฝ่ายทำกับเธอถึงขนาดนี้ (ข่มขืน ประหารเธอและเคย์เรียน) อริสเทียจึงต่อว่าจีอึนทำไมถึงต้องโกรธแค้นเธอทั้งๆที่เป็นคนแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างของเธอไป จีอึนจึงบอกว่า "หลังจากอริสเทียตายไป 4 ปี รูบริสในชาติก่อนเอาแต่โหยหาเธอ" ทั้งๆที่เขาเห็นแก่ตัวและโหดร้ายทำไมเธอยังรักเขาอีก อริสเทียจึงตอบว่า "เธอไม่เคยโกรธแค้นเขาที่ข่มขืนเธอเพียงแต่เธอรู้สึกน้อยใจที่เขาไม่ได้รักเธอ" และอีกอย่างรูบริสในชาตินี้ไม่เกี่ยวข้องกับรูบริสในชาติที่แล้ว เขาจึงไม่มีความจำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรกับความผิดที่ยังไม่ทันได้เกิดขึ้น และอริสเทียยังบอกอีกว่า "ชีวิตของเธอในตอนนี้มีเพื่อบิดาและคนที่เธอรักเท่านั้น" แต่จีอึนกับไม่ยอมรับบอกว่า "รูบริสทั้งคู่คือคนคนเดียวกัน"
ต่อมาทางราชสำนักได้มีประกาศจัดตั้งกองอัศวินที่ 3 และ 4 ขึ้นใหม่พร้อมทั้งมีการสอบคัดเลือกอัศวินขึ้น อริสเทียจึงได้เข้าสมัครและสามารถสอบผ่านได้เป็นอันดับ 1 แต่ในระหว่างที่เธอกำลังเข้าทำพิธีรับตำแหน่งอัศวิน เธอกับคิดใช้สาบานเลือดเพื่อถวายความภักดีแด่รูบริสที่เป็นองค์จักรพรรดิในฐานะข้าราชบริพาร แต่รูบริสกับเลือกที่จะปฏิเสธคำสาบานเลือดนี้ สะบัดหน้าเดินออกจากพิธีไปโดยไม่สนใจอะไร
อริสเทียจึงเข้าไปตามหารูบริสภายในวัง เพื่อที่จะขอร้องให้รูบริสยอมรับสาบานเลือดของเธอ แต่เมื่อพบกับรูบริสแล้ว รูบริสกับบอกรักและจูบอริสเทีย ทำเอาอริสเทียอดที่จะสับสนขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ ก่อนที่เคย์เรียนจะตามมาแล้วรูบริสได้ตกลงอะไรบางอย่างกับเขา
รูบริสได้สั่งให้คนส่งจดหมายมาให้เคย์เรียนและยังส่งกล่องใส่จดหมาย 7 ฉบับมามอบให้กับอริสเทีย พออริสเทียเปิดจดหมายฉบับแรกอ่าน จึงทำให้เห็นถึงจดหมายของรูบริสที่เขียนถึงเธอตอนที่เธอโดนวางยาพิษ บอกถึงความรักที่มีต่อเธอและกลัวจะสูญเสียเธอไป ก่อนที่อริสเทียจะอ่านจดหมายทั้งหมด ราวกับไม่เชื่อว่า "ผู้ชายเย็นชาอย่างรูบริสจะรักเธอ" ทำเอาอริสเทียต้องส่ายศีรษะอย่างแรง เพราะเธอพยายามจะไม่รักใคร เพื่อที่จะหลีกหนีจากความเจ็บปวด
ต่อมาอริสเทียโดนสั่งให้ไปทำงานช่วยเหลือยังรูบริสภายในวัง แต่ในระหว่างที่รูบริสกำลังทำงาน จีอึนได้ขอเข้าเฝ้า เพื่อนำของกินมาถวาย รูบริสเพียงรับไว้ก่อนที่จะทำงานต่อกับอริสเทีย แต่อยู่ๆรูบริสกับหมดสติไป อริสเทียที่ตกใจจึงให้รีบตามท่านอัครสาวกมาด่วน ท่านอัครสาวกได้ใช้เวทมนต์รักษารูบริสจนหาย พอรูบริสฟื้นขึ้นมาจึงถามอริสเทียว่า "ทำไมจึงร้องไห้" ซึ่งอริสเทียกับไม่ได้ตอบอะไรออกไปได้ ท่านอัครสาวกยังบอกว่า "รูบริสโดนวางยาพิษชนิดเดียวกับอริสเทีย" อริสเทียที่ได้ยินจึงขอสืบเรื่องนี้ เพราะคนวางยาพิษน่าจะเป็นคนที่ดูแลเรื่องไวน์ชื่อเอียน ที่เกี่ยวข้องกับสาวใช้ที่เป็นคนวางยาพิษเธอในครั้งที่แล้ว
ต่อมาอริสเทียได้ทราบจากอัศวินที่มาคุ้มกันเธอว่า "รูบริสได้สั่งให้มีวันหยุด เพราะเขารู้สึกยินดีจากเหตุการณ์เมื่อ 4 วันก่อน" จึงทำให้อริสเทียฉุกใจคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่รูบริสจูบเธอ ใบหน้าจึงอดที่จะร้อนผ่าวไม่ได้