(สปอย์) ราชันโลกพิศวง เล่ม 26
ไคลน์ (พระเอก/เดอะฟูล/ผู้วิเศษระดับ 6 คนไร้หน้า) ที่ต้องการเดินทางไปยังทะเลแห่งซากปรักหักพัง ทะเลแห่งหมอกมายา เพื่อค้นหาเงือกใช้ในการเลื่อนระดับเป็นผู้วิเศษระดับ 5 นักเชิดตุ๊กตาอาถรรพ์ ได้ขึ้นเรือของแคทลียา (เดอะเฮอร์มิท/1 ใน 7 เทพโจรสลัด/ผู้วิเศษระดับ 5 ดารกาจารย์) จนไปถึงทะเลหมอกมายาได้สำเร็จ ในยามค่ำคืนเขาได้พบกับทะเลแห่งความฝันร่วมของทุกคน ได้พบทั้งแฟรงค์ (ผู้เชี่ยวชาญพิษ /สายผู้ไถหว่าน) ฮีธ (ผู้ปราศจากโลหิต/ผู้วิเศษระดับ 6 บิชอปกุหลาบ) นีน่า (มือสังหารใต้ทะเล/ผู้วิเศษระดับ 7 นักท่องทะเล) และอาตาลอฟ (นักเดินเรืออายุเยอะ) จนกระทั่งไปเจอนักผจญภัยแปลกหน้าที่ดวงซวยชื่อแอนเดอร์สัน (นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุด/ผู้วิเศษระดับ 5 ผู้เก็บเกี่ยว) ในความฝันด้วยก่อนที่จะตื่นขึ้นมา
พอเช้าวันต่อมาก็ได้พบกับแอนเดอร์สันอีกครั้งบนเกาะใกล้ๆ และที่ตามเขามาด้วยคือสัตว์ประหลาดที่เป็นปีศาจยักษ์หิน สมกับคนดวงซวย ก่อนที่แคทลียาจะสั่งยิงปืนใหญ่ถล่มพวกมันก่อนที่จะแล่นเรือออกจากเกาะ โดยมีแอนเดอร์สันร่วมทางด้วยอีกคน เพราะเขารู้ตำแหน่งที่อยู่ของนางเงือก ท่ามกลางไคลน์ที่ยังสงสัยถึงสายตาของใครบางคนที่กำลังจับตามองดูเขาอยู่บนเรือ
ในคืนต่อมาไคลน์ที่ได้ฝันอีกครั้ง เขาไปอยู่ในคุกในอารามสีดำ ก่อนที่จะหลบหนียังนักบุญสีดำที่คอยตามจับนักโทษไปลงทัณฑ์ จนหนีเข้าไปในห้องที่มีกระจกบานหนึ่ง พอส่องก็พบยังเงาสะท้อนของตนเองที่ชั่วร้ายออกมาจึงต่อสู้กัน จนสามารถเอาชนะได้ เพราะอีกฝ่ายได้แต่เลียนแบบเท่านั้น ก่อนจะไปพบเจอยังลีโอมาสเตอร์ที่เป็นร่างที่หลุดออกมาจากกระจกของนักบวชสีดำที่เป็นคนของคณะภราดรออโรร่า แล้วนักบุญสีดำตามล่ามาถึง ไคลน์จึงได้แต่เอาคทาเทพสมุทรออกมาต่อสู้ จึงสามารถรับมือได้ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ในฝันครั้งต่อไป ไคลน์ได้ไปยังห้องสมุด เขาได้เห็นถึงหนังสือมากมายและบันทึกของจักรพรรดิโรเซลล์ (รุ่นพี่ชาวจีนที่ทะลุมิติมาก่อนพระเอก) แต่ไม่ได้หยิบ เพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่เหมือนแอบจ้องมองเขาอยู่
วันต่อมาความดวงซวยของแอนเดอร์สันจึงทำให้เกิดสิ่งประหลาดบนเรืออนาคต พลังของเทพมารดาแห่งแผ่นดินที่ทิ้งไว้ไปกระตุ้นความสามารถในการตัดต่อพันธุกรรมของแฟรงค์ยังทำให้เกิดสิ่งประหลาดขึ้นมาบนเรือ เช่น หัวลูกเรือมีแตงโมงอกขึ้นมา เรือผลิตน้ำนมได้ ทั้งต้องพบกับสัตว์ประหลาดเข้าโจมตี
แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในระหว่างที่เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดอยู่ กับเจอเรือทิวลิปสีดำของลุดเวลล์ นายพลโรกันตร์ (1 ใน 7 เทพโจรสลัด/ผู้วิเศษระดับ 5 ผู้เฝ้าประตู) ที่มีราชาแห่งห้าท้องทะเล (1 ใน 4 จตุราชัน) และคณะภราดรวิญญาณหนุนหลังเข้าโจมตี จึงทำให้แคทรียาที่กำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดไม่สามารถปลีกเวลามารับมือได้ ไคลน์ที่ไม่รอช้าจึงได้บินไปยังเรือทิวลิปสีดำเข้าต่อสู้กับลุดเวลล์และกองทัพวิญญาณของอีกฝ่ายทันที จึงทำให้แอนเดอน์สันที่จ้องมองดูถึงกับตกใจว่า "เขาสมกับเป็นนักล่าผู้บ้าคลั่งเกอร์มัน สแปร์โรว์ (ตัวปลอมของไคลน์)" จริงๆ
ก่อนที่ตัวของแอนเดอร์สันจะได้ใช้ของขลังที่ไคลน์ทิ้งไว้บินตามมาร่วมต่อสู้ด้วยอีกคน โดยไคลน์กับแอนเดอร์สันต้องต่อสู้กับลุดเวลล์และดวงวิญญาณมากมายที่ปรากฏออกมาจากประตูแห่งความตาย และเมื่อลุดเวลล์เห็นถึงแคทลียาที่สามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดได้แล้ว จึงรีบแล่นเรือหนีทันที ในขนาดที่ไคลน์ที่ใช้ถุงมือเชื้อไฟในการต่อสู้ เพื่อขโมยพลังของอีกฝ่าย จึงทำให้เขาต้องทำกระดุมเมอร์เมด (ใช้หายใจใต้น้ำ) ตกอยู่บนเรือทิวลิปสีดำ (เป็นคำสาปจากการใช้ถุงมือเชื้อไฟ) ก่อนที่จะสามารถกลับมายังเรืออนาคตได้อย่างปลอดภัย
คืนต่อมาไคลน์ได้เข้ามาในความฝันอีกครั้ง เขามาอยู่ที่ห้องสมุดก่อนที่จะได้พบถึงหญิงสาวสวมบูทที่เคยช่วงชิงยังไพ่จักรพรรดิดำกับเขา หรือเธอคือราชินีแห่งความลี้ลับ เธอสามารถคาดเดาได้ว่า "ไคลน์คือวีรบุรุษจอมโจรและคนที่ชิงคทาเทพสมุทร" เธอต้องการตกลงกับไคลน์โดยการแลกเปลี่ยนจะมอบยังบันทึกของโรเซลล์ให้ แต่เขาจะต้องสอนวิธีถอดรหัสตัวอักษรของโรเซลล์ (ภาษาจีน) ให้ ซึ่งทำให้ไคลน์สามารถเดาได้ว่า "แท้จริงแล้วราชินีแห่งความลี้ลับคือแบร์นาเด็ตท์ (ลูกสาวคนโตของโรเซลล์)"
ต่อมาไคลน์จึงไปถามแคทลียาถึงสาเหตุที่เธอแตกหักกับราชินีแห่งความลี้ลับ แต่แคทลียากับตอบออกมาอย่างเศร้าสร้อยว่า "เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายโดนทอดทิ้งจากคนที่เป็นเหมือนแม่และอาจารย์" ส่วนการที่ยิงปืนใหญ่ต้อนรับไคลน์ขึ้นเรือก็เป็นการส่งสัญญาณบอกแบร์นาเด็ตท์ให้ทราบ (แต่แคทลียากับไม่รู้ว่า "แบร์นาเด็ตท์ได้แอบขึ้นเรืออนาคตมาด้วย")
เมื่อเดินทางไปพบพวกเงือก ไคลน์ที่ได้ดื่มน้ำยาผู้วิเศษขั้นที่ 5 ก็ได้ใช้เสียงเพลงของเหล่านางเงือกในการทำพิธีกรรมให้เขาสามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้วิเศษระดับ 5 นักเชิดตุ๊กตาอาถรรพ์ได้สำเร็จ เขาสามารถมองเห็นเส้นด้ายดวงวิญญาณสีดำเล็กๆจากปลายนิ้วของเขาที่สามารถเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆและสามารถใช้เชิดมันแทนตุ๊กตาได้
ด้านเดอร์ริค (เดอะซัน/ผู้วิเศษลำดับ 7 ผู้รับใช้แห่งสุริยะเทพ) ที่ได้ไปสำรวจยังเมืองยามบ่าย แล้วหายตัวเข้าไปในอดีตก่อนที่เมืองยามบ่ายจะล่มสลาย ทำให้เขาสามารถได้เห็นถึงนามของเทวทูต 3 คนคือโอโรโบรอส (เทวทูตแห่งโชคชะตา) เมดิซี (เทวทูตสีชาด) และซัสริเอล (เทวทูตแห่งความมืด) ก่อนที่เขาจะรีบท่องนามของเดอะฟูล จึงทำให้เขากลับมาได้ เมื่อเดอร์ริคกลับมาก็ได้พบยังคอลิน (ประธานของสภา 6 คน) ที่นำทีมสำรวจมาตามหาเขาพอดี ทุกคนจะรู้สึกถึงอันตรายจึงรีบตามหาทุกคนที่แยกย้ายกันสำรวจ ก่อนที่จะเจอคนที่หายตัวไปได้เข้ามาโจมตีราวกับไม่ใช่คนเดิม
เมื่อจัดการได้และไปต่อจึงได้พบนักบวชที่กำลังสวดสำนึกผิด เมื่อคอลินก้าวออกไปถามยังนักบวชจึงทราบว่า "เทวทูตตนที่ 4 ได้ล่องลวงให้ซัสริเอลทรยศเทพผู้สร้างที่แท้จริง" แต่พอจะถามชื่อออกไป ร่างนักบวชกับลุกเป็นไฟ คอลินจึงให้ทุกคนถอนตัวออกจากเมืองยามบ่ายแห่งนี้
ในฝันไคลน์ได้พบกับแบร์นาเด็ตท์อีกครั้งหนึ่งและได้ทราบว่า "เสียงละเมอเพ้อคลั่งที่อัดแน่นอยู่ในทะเลหมอกมายาแห่งนี้แท้จริงแล้วเป็นเสียงของเทพผู้สร้างที่แท้จริง" และโลกแห่งฝันนี้มี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือโลกของราชสำนักแห่งยักษ์ (ที่เชื่อมต่อกับเมืองยามบ่ายของนครเงินยวง) อีกส่วนหนึ่งคืออารามสีดำ และได้ทราบว่า "เทพแห่งความตายก็ได้เข้าร่วมสงครามทวยเทพในทะเลแห่งนี้ด้วย" จึงทำให้ลุดเวลล์มักมาผจญภัยแถวนี้
ระหว่างแล่นเรือกลับ พวกของไคลน์ได้พบนักผจญภัยที่โดนราชันอมตะ อะกาลีโต (1 ใน 4 จตุราชัน) ตามล่าได้เสียชีวิตอยู่พร้อมทั้งอักษรเลือดที่เขียนว่า "น้ำพุแห่งความเยาว์วัย" จึงทำให้ไคลน์เดาได้ว่า "การที่อะกาลีโตได้เจอน้ำพุแห่งความวัยเยาว์ เป็นเพียงข่าวปลอมที่อะกาลีโตปล่อยออกมา" เรืออนาคตจะพบยังเรือราชันอมตะของอะกาลีโต แต่อะกาลีโตสังหรณ์ได้ถึงอันตรายจึงรีบแล่นเรือหนีไปทันที
ก่อนเรืออนาคตจะแล่นออกจากทะเลหมอกมายา แบร์นาเด็ตท์ที่ได้มาพบไคลน์จึงได้บอกว่า "การที่อะกาลีโตปล่อยข่าวปลอมเรื่องน้ำพุแห่งความเยาว์วัย" เพื่อสังหารนักผจญภัยมากมาย เป็นส่วนหนึ่งในการเลื่อนขั้นเป็นผู้วิเศษระดับ 4 หรือย่อยสลายน้ำยาระดับ 4ของอะกาลีโตที่ชื่อว่า "ปีศาจ"
เมื่อเรืออนาคตแล่นไปถึงเกาะโทสกัส ไคลน์จึงลงเรือที่นี่พร้อมทั้งแอนเดอร์สัน โดยแอนเดอร์สันที่ได้ดื่มน้ำแล้วเกิดเสียชีวิตจากความซวยของคำสาป เขาฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้งเพราะอาศัยตุ๊กตาฟางแทนตัวช่วยชีวิตไว้ แอนเดอร์สันจึงมาขอให้ไคลน์ช่วยหาคนถอนคำสาปให้
ไคลน์ที่คิดถึงสมาชิกสภาชะตากรรมของกลุ่มชีวนิยมจึงตกลง และขอของแลกเปลี่ยนเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ในการต่อสู้ ซึ่งแอนเดอร์สันที่รับปากก็บอกถึงข้อมูลของปืนวิเศษอันหนึ่ง ต่อมาไคลน์ติดต่อยังวิล ออเซ็ปติน (อสรพิษปรอท) อีกครั้ง เพื่อถามเขาถึงชื่อผู้วิเศษชั้นที่ 4 ของสายนักทำนาย วิลจึงตอบออกมาว่า "จอมอาคมกฤตยา"