(สปอย์) ราชันโลกพิศวง เล่ม 22
ทันทีที่ไคลน์ (พระเอก/เดอะฟูล/ผู้วิเศษระดับ 6 คนไร้หน้า) ทราบว่า เจ้าแห่งพายุ ยันน์ ควอเตอร์แมน (ราชาห้วงสมุทร/ผู้วิเศษระดับกึ่งเทพระดับ 3 ของลัทธิพายุ) สามารถสังหารยังเทพสมุทรคาวิทูวา (งูยักษ์)ได้ เขาจึงรีบขึ้นไปสู่โลกหมอกสีเทา ใช้ไพ่แห่งการลบหลู่จักรพรรดิดำถอดวิญญาณรีบมุ่งหน้าตรงไปยังที่อยู่ของคาวิทูวาที่เสียชีวิตทันที (จากการตามรอยสิ่งของที่เขาเคยถวายไป)
พอไปถึงไคลน์ได้พบกับนักบวชของคาวิทูวาที่คุ้มคลั่งจากการเสียชีวิตของคาวิทูวา นักบวชได้กินเนื้อของคาวิทูวาแล้วกลายเป็นสัตว์ประหลาดเข้ามาหมายจะสังหารไคลน์ เขาจึงสังหารนักบวชเสียแล้วกวาดต้อนเอาของวิเศษที่อยู่ในบริเวณไป ทั้งยังได้สิ่งที่ตกค้างจากคาวิทูวาเป็นคทาเทพสมุทร ตลอดจนได้จอกที่มีอักษรภูติพรายว่า "ภัยพิบัติ โกห์นัม" ก่อนที่เขาจะรีบกลับขึ้นสู่โลกหมอกสีเทาอย่างรวดเร็วก่อนที่ยันต์และคนของลัทธิพายุจะมาถึง
ไคลน์ที่ได้คทาเทพสมุทร ทำให้เขาทราบว่า "คทานี้เป็นวัตถุติดผนึก ที่สามารถทำให้เขาวงการคลื่นลม สายฟ้าและเหาะไปบนท้องฟ้าได้ จะทำให้เขามีพลังระดับทวยเทพ แต่มีข้อเสียเวลาใช้จะโดนเสียงของผู้ศรัทธามากมายทำให้ปวดหัว (ถ้าอยู่บนโลกของหมอกสีเทาจะไม่ได้รับผลกระทบนี้)" ทั้งยังทราบว่า "คาวิทูวาที่กลายเป็นกึ่งเทพน่าจะเกี่ยวข้องกับราชาภูติพรายโกห์นัม"
ไคลน์ที่สัมผัสได้ถึงการสวดภาวนาของสาวกมากมาย เขาจึงได้สวมรอยเป็นเทพสมุทรที่คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง โดยให้สาวกทำแต่ความดีช่วยเหลือผู้คน แทนการบูชาอย่างโหดเหี้ยมด้วยสิ่งมีชีวิต จึงทำให้มีสาวกมากมายดีใจและทำตาม โดยไคลน์จะช่วยเหลือตอบแทนคำวิงวอนของสาวกที่เดือดร้อนและคำวิงวอนดีๆเท่านั้น
เมื่อแอลเจอร์ (เดอะแฮงแมน/ผู้วิเศษระดับ 7 นักท่องทะเล) ทราบเรื่องจึงพอเดาได้ว่า "เทพสมุทรที่คืนชีพมาคือเดอะฟูล"
ด้านออเดรย์ (เดอะจัสติส/ผู้วิเศษระดับ 7 จิตแพทย์) ที่บรรลุนิติภาวะแล้วได้ย้ายไปยังเขตปกครองของตนเอง เธอได้ยินบทเพลงตำนานพื้นบ้านเรื่องมังกรยักษ์ในความฝัน เธอจึงได้ใช้อาคมลวงใจและสวมต่างหูนาม "คำโป้ปด (ของวิเศษที่มีพลังของคนไร้หน้า)" เข้าไปสำรวจในความฝันของตนเอง
ออเดรย์ที่ตื่นในความฝันบนยอดเขาได้เดินลงไปจากยอดเขาผ่านความฝันของผู้คนมากมายผ่านทะเลแห่งจิตไร้สำนึกร่วม มองท้องฟ้าแห่งพลังวิญญาณ ก่อนที่จะพบยังมังกรยักษ์บินผ่านไป เธอจึงรีบถอยกลับขึ้นยอดเขาทันทีด้วยความระมัดระวังตัว
ด้านอัคคีเริงโรจน์ ดานิซ หัวหน้ากะละสีลำดับ 4 ของเรือความฝันสีทอง ของขุนพลน้ำแข็ง เอ็ดวินา เอ็ดเวิร์ด (1ใน 7 เทพโจรสลัด) ที่หายจากอาการบาดเจ็บได้รับหน้าที่ดักฟังโทรเลขของนายพลโลหิต เซนยอร์ (1 ใน 7 เทพโจรสลัด) กับตกใจที่อยู่ๆเครื่องโทรเลขกับส่งข้อความประหลาดมา จึงตกใจกลัว ไคลน์ที่ตรวจสอบเครื่องโทรเลขจึงพบว่า "เป็นอะโรดส์ (กระจกวิเศษของลัทธิไอน้ำและจักรกล) ได้ติดต่อมาผ่านพลังเครื่องโทรเลขที่ทิ้งไว้ในโลกแห่งหมอกสีเทา" จึงทำให้ไคลน์สามารถสอบถามถึงที่อยู่ของเงือกได้ แต่ในเวลาเดียวกันเวลาใช้เครื่องโทรเลขที่มีพลังของหมอกสีเทา เขาก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น เพราะกลัวว่าครั้งต่อไปอาจจะมีพวกเทพเจ้าหรือกึ่งคนอื่นแอบติดต่อเข้ามาเหมือนกัน
ไคลน์ที่อยากได้ผู้ส่งสารเป็นของตนเอง จึงตัดสินใจใช้วิธีการที่อาซิค (อดีตอาจารย์มหาลัยของเขาที่ความจำเสื่อม) แนะนำวิธีแรกคือเข้าไปในโลกแห่งวิญญาณ เพื่อตามหาผู้ส่งสารที่ตนสนใจมาทำสัญญากับตนเอง แต่พอไคลน์เข้าไปค้นหาได้พบยังดวงวิญญาณมากมาย โดยเฉพาะหญิงสาวหัวขาด เขาจึงรีบผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะทราบได้ถึงความอันตรายของเธอ แต่อยู่ๆไคลน์กับโดนดึงดูดให้มุ่งหน้าตรงไปยังเรือจักรวรรดิแห่งวิญญาณของแนสท์ ราชาแห่งห้าท้องทะเล (1 ใน 4 จตุราชา) เพราะพลังของไพ่จักรพรรดิดำมีความเชื่อมโยงกับพลังพิเศษของอีกฝ่ายที่เป็นผู้วิเศษสายเดียวกัน ไคลน์จึงรีบหลบหนีกลับไปยังโลกของหมอกสีเทาทันที
ต่อมาไคลน์จึงเปลี่ยนใช้วิธีที่ 2 ในการหาผู้ส่งสาร โดยการทำพิธีเรียกแทน ซึ่งวิธีนี้จะเลือกไม่ได้ต้องรออีกฝ่ายตอบรับเอง และคนที่ตอบรับมาเป็นผู้ส่งสารให้กับเขากับเป็นหญิงสาวหัวขาด ที่เคยพบในโลกแห่งวิญญาณ โดยเธอเรียกค่าจ้างในการส่งสารแต่ละครั้งเป็น 1 เหรียญทอง
ไคลน์ที่ทำงานเป็นนักผจญภัยในชื่อว่า "เกอร์มัน" กับได้ยินภารกิจในการตามหาหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อเอแลน ซึ่งมีค่าจ้างถึงพันปอนด์จึงมีความสนใจ ก่อนที่เขาจะกลับไปยังที่พักและขึ้นไปยังโลกหมอกสีเทา เพื่อทำหน้าที่ของเทพสมุทรช่วยเหลือสาวก กลับสัมผัสได้ถึงคำวิงวอนจากดวงดาวสีแดงดวงหนึ่งที่กำลังขอความช่วยเหลือ เขาจึงนำอีกฝ่ายเข้าสู่โลกของหมอกสีเทา ซึ่งคือนายพลแห่งดวงดาว แคทลียา (1 ใน 7 เทพโจรสลัด/สายผู้เสาะหาความพิศวงระดับ 5) ที่เป็นสมาชิกคณะนักบุญโมเสส ที่ได้รับความรู้มากมายจนกำลังจะตาย แต่ด้วยพลังของโลกหมอกสีเทาจึงได้ช่วยชีวิตเธอไว้ แล้วแคทลียาจึงได้กลายเป็นสมาชิกสมาคมไพ่ทาโรต์คนใหม่นามเดอะเฮอร์มิท (นักพรต)
ในงานชุมนุมสมาคมไพ่ทาโรต์ แคทลียาเพิ่งเข้าประชุมครั้งแรกมีความระมัดระวังตัวและสังเกตการทุกคน เธอไปสะดุดยังแอลเจอร์ เดาได้ว่า "อีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้วิเศษสายกะลาสีของลัทธิพายุ" จึงมีความระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ในขนาดที่แอลเจอร์ก็พอจะเดาถึงฐานะของแคทลียาจากการแต่งตัวได้ จึงตกใจที่สมาคมไพ่ทาโร่สามารถเชิญผู้วิเศษระดับ 5 มาได้ ในส่วนคนอื่นๆตอนแรกแคทลียากับไม่สนใจมากนัก เพราะเป็นผู้วิเศษระดับต่ำ
แต่พอตระหนักถึงเบื้องหลังของแต่ละคนจึงตกใจ เช่นออเดรย์มาจากชนชั้นสูง ฟอลส์ (เดอะเมจิกเชี่ยน) เป็นศิษย์ตระกูลอับราฮัม เอ็มลิน (ผีดูดเลือด) เป็นคนของตระกูลโลหิต ส่วนเดอร์ริค (เดอะซัน/ผู้วิเศษระดับ 8 ผู้วิงวอนต่อแสงสว่าง) ที่อาศัยอยู่ในนครเงินยวงก็สามารถหาวัตถุดิบจากสัตว์ประหลาดมากมายได้โดยที่เธอไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อนกับตำนานของนครเงินยวงที่สาบสูญที่จักรพรรดิโรเซลล์ (รุ่นพี่ชาวจีนที่มาต่างโลกก่อนพระเอก) เคยตามหาก่อนเสียชีวิต จึงทำให้แคทลียาต้องประเมินยังสมาชิกสมาคมไพ่ทาโรต์ใหม่อีกครั้ง
และเธอยังตกใจเมื่อเห็นถึงเดอะฟูลสามารถอ่านยังบันทึกของโรเซลล์ได้ พอถึงเวลาแลกเปลี่ยนของแคทลียาต้องประหลาดใจอีกครั้งที่เดาได้ว่า "ออเดรย์ที่เลื่อนขั้นเป็นจิตแพทย์แล้วกับซื้อคุณลักษณะพิเศษของจิตแพทย์อีก" ส่วนเอ็มลินที่ทำตามวิธีของแอลเจอร์ได้เงินมาจึงขอซื้อสิ่งตกทอดของผีดูดเลือดระดับบารอน เดอร์ริคก็ได้ใช้ประวัติของนครเงินยวงแลกต้นพันธะภูติเรืองแสงกับแคทลียา
พอถึงเวลาพูดคุยข่าวสารแอลเจอร์ได้พูดถึงการตายของคาวิทูวาและการที่เทพสมุทรได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ทำให้แคทลียาสนใจยังคทาเทพสมุทรที่ไคลน์วางทิ้งไว้ ก่อนที่ไคลน์จะใช้เดอะเวิลด์ถามถึงหญิงสาวที่ชื่อเอแลนว่า "มีใครรู้จักบ้าง" แคทลียาจึงตอบออกมาว่า "หญิงสาวที่ชื่อเอแลนเป็นบุตรสาวพ่อค้าก่อนที่จะโดนขุนพลแห่งโรคภัย เทรซี (1 ใน 7 เทพโจรสลัด) จับตัวไปและคนที่จ่ายค่าจ้างในการตามหาเอแลนก็คือเทรซี
ในเวลาเดียวกันออเดรย์ได้เล่าถึงการสำรวจความฝันของเธอ พอได้ยินแอลเจอร์กับแคทลียากลับบอกให้เธอยุติการสำรวจก่อน เพราะมันมีอันตรายไว้รอให้เลื่อนขั้นเป็นผู้วิเศษระดับสูงกว่านี้จึงจะสามารถสำรวจได้ หลังการประชุมสมาคมไพ่ทาโรต์ ไคลน์ได้ทดลองเข้าไปในความฝันของตนเองแล้วลองกล่าวคำวิงวอนต่อเดอะฟูล พบว่า "สามารถกล่าวคำวิงวอนได้ในภาษาเฮอร์มีสโบราณ" เขาจึงเข้าสู่โลกหมอกสีเทาแล้วบอกให้ออเดรย์ทราบว่า "สามารถภาวนาขอความช่วยเหลือจากเดอะฟูลในความฝันได้"