(สปอย์) ราชันโลกพิศวง เล่ม 17


(สปอย์) ราชันโลกพิศวง เล่ม 17

ไคลน์(พระเอก/เดอะฟูล/ผู้วิเศษระดับ 7 นักมายากล) กับเหล่านักสืบต้องเผชิญกับการล้างแค้นของอัครสาวกแห่งความปรารถนา (เจ้านายของอสุรกาย) ที่ได้ร่วมมือกับนักสืบไอเซนการ์ด (ผู้เฒ่าดวงตาแห่งปัญญา/ผู้วิเศษระดับ 7 ของสายนักอ่าน พหูสูต/ผู้จัดงานชุมนุมซื้อขายแลกเปลี่ยนของวิเศษ) และคัสลานา (ผู้วิเศษสายผู้พิพากษา) ได้ปรึกษากัน ไคลน์ที่ฉุกใจคิดได้ว่า "การที่จะสืบหาข้อมูลการเคลื่อนไหวของนักสืบทั้งหลายอาจมีเบาะแสทิ้งไว้" ทำให้ไอเซนการ์ดได้แจ้งข้อมูลให้กับนักท่องราตรีทราบ

ต่อมาไม่นานนัก นักท่องราตรีก็สามารถระบุตัวของอัครสาวกแห่งความปรารถนาได้คือนายธนาคารที่ชื่อแพททริค เจสันหรือแพททริค เจสัน เบรียาที่มาจากตระกูลอสุรกาย ที่ในยามนี้ได้ขายทรัพย์สินและหลบหนีหายไปพร้อมกับเงินแล้ว แต่ไคลน์ที่สงสัยว่า "ผู้วิเศษสายอสุรกายจะล้างแค้นให้กับสุนัขของตนจริงหรือ" เพราะถ้าเป็นผู้วิเศษสายนี้จะต้องผ่านระดับที่เรียกว่า "ผู้เลือดเย็น"

ต่อมาเมื่ออยู่คนเดียวไคลน์จึงได้ทำนายที่อยู่ปัจจุบันของเจสัน กับทำให้เขาทราบว่า "แท้ที่จริงแล้วทั้งชื่อ รูปร่างใบหน้าของเจสันที่ออกไปพบกับทุกคนเป็นเพียงหนังมนุษย์ที่สวมทับไว้" ส่วนตัวจริงของเขากำลังซ่อนอยู่ในบ้านที่มีเรือนกระจกแห่งหนึ่งต่างหาก

พวกอิคันเซอร์ (ดีกันของหัวใจจักรกลที่รับผิดชอบคดีนี้และคุ้มครองพวกนักสืบ) ที่ได้ใช้กระจกวิเศษอะโรดส์ถามถึงที่อยู่ของเจสันกับโดนหลอกว่า "อีกฝ่ายกำลังจะหนีออกจากเมือง" ทำให้อาร์ชบิชอปของลัทธิเจ้าพายุ เอส สเนคผู้ขับขานเพลงแห่งเทพเจ้าไล่ตามไป


แต่ไคลน์ที่ได้ไปพบยังอิคันเซอร์กับคาร์ลสัน (สมาชิกหัวใจจากคนที่คุ้มครองไคลน์) จึงได้เสนอให้ใช้กระจกอะโรดส์ทำนายอีกครั้ง โดยใช้ชื่อของอัครสาวกแห่งความปรารถนาไม่ใช่ชื่อของเจสัน จึงทำให้ทราบที่อยู่ของอีกฝ่ายนึงที่อยู่ในบ้านที่มีเรือนกระจกหลังหนึ่ง สมาชิกหัวใจจักรกลจึงแจ้งแก่กลุ่มนักท่องราตรีให้ทราบพร้อมทั้งรีบมุ่งหน้าไปทันที

จุดหมายของอัครสาวกแห่งความปรารถนาคือต้องการสังหารดยุคเนแกนที่เป็นพี่ชายนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้วิเศษระดับ 6 ที่พยายามผลักดันกฎหมายเยียวยาผู้ยากไร้ ซึ่งแอบมาหาชู้รักคนโปรด หลังจากที่มีอะไรกันดยุคเนแกนที่รู้สึกสูญเสียแรงมากเกินไปเหมือนกำลังจะตาย แต่ยังตั้งสติได้ทำให้รู้ว่า "โดนลอบทำร้ายด้วยพลังวิเศษ" จึงรีบหนีออกมา ผู้ช่วยของดยุคเนแกนที่หาตัวของอัครสาวกแห่งความปรารถนาพบจึงใช้พลังกักขังอีกฝ่ายไว้ในห้องแล้วเข้าต่อสู้ทันที

ดยุคเนแกนที่อยู่ภายใต้การอารักขาพยายามขอความช่วยเหลือไปยังวิหารเจ้าพายุ เพื่อให้เอสรีบมาช่วยเหลือทันที แต่เอสกับโดนหญิงสาวที่สวมหนังปลอมตัวเป็นเจสันหลอกไปที่ท่าเรือ พอทิ้งหนังมนุษย์ไปแล้วจึงหาอีกฝ่ายไม่พบ จนทำให้ชูรักพุ่งเข้ามาทำร้ายดยุคเนแกน ก่อนที่จะโดนสังหารไป ทำให้ดยุคเนแกนและเหล่สองครักษ์คิดหลบหนีไปจากที่นี่ จนทำให้ผู้ช่วยตกใจ อัครสาวกแห่งความปรารถนาจึงฉวยโอกาสหนีจากห้องที่โดนพลังกักขังไว้ไปสังหารดยุคเนแกนแล้วรีบหลบหนีไป โดยผู้ช่วยของดยุคเนแกนกับแอบยิ้มออกมาโดยที่ไม่มีใครเห็น

พอกลุ่มนักท่องราตรีที่มีเลโอนาร์ด (มารฝัน/เพื่อนเก่าไคลน์สมัยที่ทำงานที่หน่วยงานนักท่องราตรี) ร่วมทีมไปด้วยได้พบอัครสาวกแห่งความปรารถนาที่กำลังหลบหนี เลโอนาร์ดจึงใช้วัตถุติดผนึก 1-42 ที่เป็นเกราะมีคราบโลหิตเข้าต่อสู้ จนสามารถทำให้อัครสาวกแห่งความปรารถนาที่ได้รับบาดเจ็บกลายเป็นเงาหลบหนีไป

ไคลน์ที่ทำนายว่า "อัครสาวกแห่งความปรารถนาจะสามารถหลบหนีไปได้" จึงขึ้นไปยังโลกหมอกสีเทาใช้ไพ่จักรพรรดิดำแล้วถอดวิญญาณเป็นอัศวินดำเข้ามาสังหารยังอัครสาวกแห่งความปรารถนา พร้อมทั้งช่วงชิงดวงวิญญาณไป เพื่อสอบสวนหาสาเหตุ พอเลโอนาร์ดมาถึงเห็นอัศวินดำหายไปจึงเกิดความสงสัยยังพฤติกรรมของสมาคมไพ่ทาโรต์

ไคลน์ที่อยู่บนโลกหมอกสีเทาสามารถใช้พิธีสื่อวิญญาณสอบถามถึงอัครสาวกแห่งความปรารถนาทำให้ทราบว่า "สาเหตุที่ลอบสังหารดยุคเนแกน เพราะได้รับการจ้างวานจากคณะนักพรตสนธยา" ที่จ่ายค่าจ้างเป็นไพ่แห่งการลบหลู่ใบหนึ่งนาม "ไพ่นรกภูมิ" อีกทั้งคณะนักพรตสนธยายังเป็นคนสั่งให้ขุนพลโจรสลัดคีลินโกสมาลอบสังหารในครั้งก่อนด้วย ซึ่งโดนไคลน์ขอให้อาซิด (อาจารย์ของเขาที่มหาลัยที่สูญเสียความทรงจำ) จัดการไป และไคลน์ยังทราบว่า "คณะนักพรตสนธยายังเป็นองค์การรับที่จักรพรรดิโรเซลล์ (รุ่นพี่ชาวจีนที่หลงมาต่างโลกก่อน) เคยเข้าร่วมและครอบครองศิลาแห่งการลบหลู่แผ่นที่ 2 ด้วย"

แต่ทางราชจักรกับให้คณะภราดรออโรร่าเป็นแพะรับบาปให้การตายของดยุคเนแกนที่ร่วมมือกับจักรวรรดิฟูธาร์กที่เป็นศัตรู ในขนาดที่ไคลน์ซึ่งร่วมมือกับอิคันเซอร์และคาร์ลสันที่เป็นสมาชิกหัวใจจักรกล โดยเสนอว่า "การไปพบชู้รักของดยุคเนแกนน่าจะเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้นอกจากคนใกล้ชิดเท่านั้น" จึงทำให้ทุกคนฉุกใจคิดได้และไคลน์ยังสามารถหลอกลวงอีกฝ่าย จึงทำให้น้ำยานักมายากลย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์ แถมยังได้รับเงินรางวัล 1,000 ปอนด์อีกต่างหาก

ด้านออเดรย์ (เดอะจัสติส/ผู้วิเศษระดับ 8 นักอ่านใจ) ที่ได้แฝงตัวเข้าไปในสมาคมเล่นแร่แปรธาตุจิต สามารถผ่านการทดสอบจากฮิลเบิร์ต จึงได้รับการยอมรับให้เข้าสมาคม ออเดรย์จึงได้เปิดเผยตัวให้กับทุกคนทราบว่า "เธอเป็นผู้วิเศษระดับ 9 ผู้ชมแล้ว" จึงทำให้เธอได้รับน้ำยาพิเศษระดับ 8 นักอ่านใจ แต่ออเดรย์กับขอกลับไปดื่มที่บ้านแทน ทั้งยังขอสูตรน้ำยาผู้วิเศษระดับ 7 จิตแพทย์ด้วย ซึ่งออเดรย์ก็ได้รับมันเป็นรางวัลล่วงหน้า พอกลับไปถึงบ้านเธอจึงเอาน้ำยานักอ่านใจให้กับซูซี่ (หมาของออเดรย์) ดื่มแทน

และเมื่อออเดรย์ทราบข่าวว่า "คนที่สังหารดยุคเนแกนน่าจะร่วมมือกับอัศวินดำของสมาคมไพ่ทาโรต์" จึงเกิดความสงสัย ได้ไปสอบถามเดอะ ฟูล (ไคลน์) ซึ่งใครก็ตอบไปว่า "อัศวินดำแค่ตามล่องรอยของอีกฝ่ายไปเท่านั้น" และไคลน์ยังบอกชื่อกลุ่มขององค์กรลับที่ต้องการสังหารดยุคเนแกนให้ออเดรย์ทราบคือ "คณะนักพรตสนธยา"

ซึ่งต่อมาภายหลังไคลน์กับฉุกใจคิดได้ถึงสาเหตุที่โรเซลล์ไม่กล้าเขียนชื่อของคณะนักพรตสนธยา น่าจะเป็นเพราะอีกฝ่ายนึงน่าจะมีวิธีทราบหากใครกล่าวถึง พอถึงเวลาชุมนุมของสมาคมไพ่ทาโร่ เขาจึงห้ามไม่ให้ออเดรย์พูดถึงนามนี้นอกโลกของบอกสีเทาอย่างเด็ดขาด ในขนาดที่แอลเจอร์ (เดอะแฮงแมน/ผู้วิเศษระดับ 7 นักท่องทะเล) ที่ทราบกับพอเดาได้บ้างแล้วจึงไม่ถามอะไรออกไป

พอถึงเวลาแลกเปลี่ยนของแอลเจอร์ที่ขายสิ่งที่หลงเหลือของมนุษย์หมาป่าได้จึงมอบเงินให้กับเดอะ เวิร์ดที่เป็นตัวแทนของไคลน์ จึงทำให้ไคลน์มีเงินมากพอที่จะไปซื้อยังวัตถุดิบของคนไร้หน้าซึ่งเป็นระดับ 6 ของสายนักทำนายได้

ไคลน์จึงได้ไปหาเอ็มลิน (ผีดูดเลือด) เพื่อขอซื้อต่อมใต้สมองของอสูรไร้หน้ากลายพันธุ์และเลือดของมันจากตระกูลโลหิตได้สำเร็จ

ด้านเอ็มลินก็สนใจถึงสมาคมไพ่ทาโรต์ เพราะคิดว่า "เดอะ ฟูลน่าจะถอนคำสาปของคุณพ่ออูทราฟสกีที่ทำให้เขากลายเป็นสาวกของเทพมารดรแห่งแผ่นดินได้" แต่ไคลน์ก็ไม่ได้บอกอะไรอีกฝ่าย เพียงแต่แนะให้ขอความช่วยเหลือจากตระกลูโลหิตหรือเทพแห่งรัตติกาล ซึ่งเอ็มลินก็ได้บอกว่า "ตอนนี้ผู้นำตระกูลโลหิตไม่มีเวลามาสนใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้" แถมดวงจันทร์บรรพกาลก็มีความอันตรายและไม่ใช่เทพแห่งรัตติกาลด้วย

แต่ไคลน์ที่ยังขาดวัตถุอีกอย่างหนึ่งจึงได้ไปหาแคสเปอร์ที่คลับ เพื่อจะถามข่าวของแชร์รอน (หญิงสาวที่เป็นผู้วิเศษระดับ 5 วิญญาณแค้น) แต่แคสเปอร์กลับได้เสียชีวิตแล้ว ในตอนนี้คนที่รับผิดชอบค้าอาวุธเถื่อนกับเป็นเอียน (ผู้ช่วยนักสืบที่เสียชีวิตไป) เป็นแทน ไคลน์จึงได้ถามข่าวคราวทั่วไปและซื้อกระสุนปืนเถื่อนเพิ่ม

แต่ในระหว่างที่นั่งรถม้ากลับไคลน์ก็ได้พบแชร์รอนที่เป็นดวงวิญญาณเข้ามาพบในรถม้า เขาจึงได้ถามถึงคุณลักษณะพิเศษของเงามืดหนังมนุษย์กับเธอ แชร์รอนจึงบอกว่ามีคนเคยพบมันในสุสานแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นสุสานของตระกูลอามอน (ตระกูลชั้นสูงในสมัยยุคที่ 4) ตระกูลของผู้ที่คิดจะแฝงเข้ามาในสมาคมไพ่ทาโร่ผ่านเดอร์ริค (เดอะซัน/ผู้วิเศษระดับ 8 ผู้วิงวอนต่อแสงสว่าง) กับมีผู้วิเศษสาวคนนึงสามารถมอบมันให้เป็นรางวัล ถ้าใครสามารถหาข่าวของสมาคมไพ่ทาโรต์ให้เธอได้ ซึ่งทำให้ไคลน์ฉุกใจคิดถึงผู้วิเศษสาวที่เขาไปแย่งชิงไพ่จักรพรรดิดำมา ที่เธอได้โผล่มาขัดขวางเขา จึงทำให้ไคลน์ได้แต่พูดไม่ออก

ต่อมาไคลน์จึงไปหาอิคันเซอร์ได้บอกถึงสุสานของอามอนให้อีกฝ่ายทราบโดยแลกกับจะขอส่วนแบ่งเป็นของวิเศษบางอย่าง ถ้าอีกฝ่ายสามารถสำรวจสุสานได้สำเร็จ ซึ่งทางอิคันเซอร์และทางหัวใจจักรกลก็ยอมรับข้อเสนอนี้ เพียงแต่ต้องขอเวลาในการเตรียมการก่อน

ไคลน์ที่ได้พบกับแอรอน (หมอ) รู้สึกประหลาดใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ฝันร้ายหรือฝันถึงวิล (เด็กที่มีไพ่กงล้อแห่งชะตากรรม) อีกต่อไปแล้วทั้งๆที่เจอศพของวิล แถมยังได้ทราบข่าวว่า "ภรรยาของแอรอนตั้งท้องในเวลาเดียวกันกับที่วิลน่าจะเสียชีวิต" จึงทำให้ไคลน์อดคิดไม่ได้ว่า "วิลที่อาจจะเป็นอสรพิษปรอท (ผู้วิเศษขั้นที่ 1) อาจจะใช้ลูกของแอรอน เพื่อคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แต่เขาที่ไม่มีหลักฐานจึงไม่สามารถแน่ใจได้


ต่อมาเมื่อไคลน์ได้ไปที่คลับชั้นสูงก็ได้พบกับทาลิม (ครูสอนขี่ม้า) ที่รู้จักกันและอีกฝ่ายกลับหัวใจวายตายต่อหน้าเขา เมื่อไคลน์ได้ใช้เนตรวิญญาณตรวจสอบจึงทำให้รู้ว่า "อีกฝ่ายเสียชีวิตโดยคําสาป" แม้จะเขาจะแจ้งเรื่องให้กับคาร์ลสันทราบ เรื่องกับเงียบไป ไคลน์จึงได้ไปถามสาเหตุกับไอเซนการ์ด จึงทราบว่าทางคดีนี้ราชวงศ์เป็นคนรับผิดชอบไม่ใช่ผู้ลงทัณฑ์ เพราะทาลิมเป็นชนชั้นสูง

แต่อยู่ๆไคลน์ก็ได้รับคำเชิญจากเจ้าชายเอเดสซาค เจ้าชายอันดับ 3 ของราชวงศ์ที่เป็นเพื่อนกับทาลิมอยากให้ไคลน์รับผิดชอบในการสืบคดีนี้ ที่เหมือนมีการปกปิดอะไรบางอย่างไว้ ซึ่งเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

ด้านฟอลส์ (เดอะเมจิกเชี่ยน/ผู้วิเศษระดับ 9 นักเรียนฝึกหัด) ที่ได้รับการไว้วางใจจากดอเรียนของตระกูลอับราฮัม จึงทำให้ดอเรียนตัดสินใจรับฟอลส์เป็นลูกศิษย์ แต่ด้วยที่ฟอลส์ไม่ได้บอกดอเรียนว่า "เธอเป็นผู้วิเศษแล้ว" จึงทำให้ต้องดื่มน้ำยานักเรียนฝึกหัดอีกรอบนึง พอถึงตอนประชุมสมาคมไพ่ทาโร่ ฟอลส์จึงถามถึงผลลัพธ์ถึงการดื่มน้ำยาซ้ำ ซึ่งก็ทำให้เธอทราบว่า "เธอต้องใช้เวลาในการย่อยสลายอีกรอบหนึ่ง" และฟอลส์ยังทราบจากแอลเจอร์ว่า "มีวิธีที่ช่วยให้ย่อยสลายได้เร็วขึ้นอีกก็คือการมีบุตร" ด้วยการแบ่งความสามารถให้กับบุตรไป

ส่วนไคลน์ที่ได้อ่านบันทึกของโรเซลล์จึงทราบว่า "อีกฝ่ายรู้จักกับดอร์" (คนที่โดนขังและร้องขอความช่วยเหลือจนฟอลส์และคนในตระกูลอับบราฮัมได้รับความทรมานจนคิดว่า เป็นคำสาป) ยังรับทราบถึงรัตติกาลไม่เท่ากับจันทรา ทั้งยังทราบถึงในอดีตเคยมีตระกูลเทวทูตที่มีพลังสูงส่งหลายตระกูล และนางอสูรปฐมกาลมีชื่อว่า "ชีค" ซึ่งเป็นชื่อของผู้ชายส่วนเดอร์ริคก็ได้รับคัดเลือกให้กลับเข้าไปร่วมทีมสำรวจอีกครั้ง และในครั้งนี้ยังมีคอลิน (ผู้ล่าอสูร/ประธานของสภา 6 คนของนครเงินยวง) เป็นผู้นำทีม แอลเจอร์จึงแนะนำว่า "แค่ให้ทำตามคำสั่งของคอลินเป็นพอ" เดอะ เวิลด์ที่เป็นตัวแทนของไคลน์จึงบอกความต้องการของตนคือคุณลักษณะพิเศษของเงามืดหนังมนุษย์ ส่วนแอลเจอร์ก็ต้องการสูตรน้ำยาคนสนิทของสายลม จึงทำให้หลังการประชุมออเดรย์คิดจะไปถามยังสมาคมเล่นแร่แปรธาตุจิต ยังคุณลักษณะพิเศษของเงามืดหนังมนุษย์ สูตรน้ำยาคนสนิทของสายลม บันทึกของโรเซลล์ และเธอยังอยากจะหาวัตถุดิบในการปรุงน้ำยาจิตแพทย์ด้วย ส่วนฟอลส์คิดจะไปถามกับดอเรียนเช่นเดียวกัน ส่วนด้านไคลน์กับกลุ้มใจที่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อวัตถุดิบในการปรุงน้ำยา