(สปอย์) มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน เล่ม 16


(สปอย์) มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน เล่ม 16

ซิล (สาวเรียกแขกของร้านนายหญิงแห่งความอุดมสมบูรณ์) ได้เข้าพบเทพธิดา เพื่อตกลงเงื่อนไขอะไรบางอย่าง

วันต่อมาที่เฮสเทียแฟมิเลีย เฮลุน ผู้ติดตามเทพธิดา คนสนิทของเทพธิดาเฟรย่าได้มาพบเบล (พระเอก) พร้อมทั้งยื่นจดหมายนัดเดทในช่วงวันแรกของเทศกาลเทพธิดา ทำเอาเฮสเทีย (เทพธิดาประจำแฟมิเลีย) ลิลิรูก้า (ซับพอร์ตเตอร์) และฮารุฮิเมะ (เมดสาวจิ้งจอก) ต่างตกใจถึงกับเจอการรุกอย่างคาดไม่ถึงของซิล ที่ทั้ง 3 ต่างก็แอบวางแผนลับหลังคนอื่นๆจะชวนเบลไปเดทเช่นกัน

ด้านซิลได้บอกถึงเรื่องราวการเดทของตนให้กับทุกคนที่ร้านนายหญิงแห่งความอุดมสมบูรณ์ทราบ ทำเอาเหล่าเพื่อนสาวเสิร์ฟในร้านถึงกับตกใจ ส่วนริว (เอลฟ์สาว) ที่ทราบถึงกับรู้สึกถึงหน้าอกที่ร้อนรุ่ม แต่ก็ยังเลือกที่จะสนับสนุนซิลที่เป็นเพื่อนรักและผู้ที่มีบุญคุณกับเธอ

เบลที่สงสัยถึงคิดไปหาซิลที่ร้านนายหญิงแห่งความอุดมสมบูรณ์ เพื่อถามเธอถึงเรื่องการเดท แต่กับโดนเฮดิน (เอลฟ์) นักผจญภัยอันดับ 1 ของเฟรย่าแฟมิเลียลักพาตัวไป เพื่อให้เบลที่ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิง ฝึกถึงการเดทจนทำให้ซิลพอใจ โดยที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ไม่งั้นอีกฝ่ายจะไปถล่มยังเฮสเทียแฟมิเลีย

เบลต้องเจอการฝึกฝนเพื่อเป็นสุภาพบุรุษ และโดนบังคับให้เข้าไปหาเงิน เพื่อใช้ในการเดทในดันเจี้ยน ถ้าเจอนักผจญภัยผู้หญิงก็ต้องแกล้งลากมอนสเตอร์ให้ไปโจมตีแล้วทำทีเป็นเข้าไปช่วย เพื่อสร้างความประทับใจ ตลอดจนต้องไปทานขนมที่ขายเฉพาะคู่รักกับคาสซานดร้า (นักผจญภัยที่สามารถทำนายได้) ที่พอผลัดกันป้อนก็ทำเอาเธออายจนหมดสติไป เพื่อฝึกให้เบลมีความคุ้นชินกับสาวๆและทำให้พวกเธอพอใจ

อาเมียร์ (แคทพีเพิลแมวลายส้มใช้หอก) ลูนอร์ (อดีตนักฆ่าเผ่ามนุษย์) และโคลเอ้ (อดีตนักฆ่าแคทพีเพิลแมวดำ) 3 สาวเสิร์ฟของร้านนายหญิงแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่ต้องการหยุดพักช่วงงานเทศกาล เพราะอาเมียร์อยากไปเที่ยวเดินกินอาหาร ส่วนลูนอร์กับโคลเอ้ต้องการแอบตามซิลไปเดท จึงปรึกษากันถึงการหาวิธีหนีงานจากร้าน โคลเอ้จึงเสนอให้ตามคนของเฮสเทียแฟมิเลียมาทำงานแทนพวกตน ถือเป็นค่าตอบแทนที่เฮสเทียเคยขอร้องให้ทั้ง 3 คุ้มครองเฮสเทียลงไปยังชั้นลึกเพื่อช่วยตามหาเบลและพรรคพวก จึงทำให้ทุกคนในเฮสเทียแฟมิเลียต้องมาทำงานในร้านแทน

พอถึงวันเดท เบลที่สวมชุดสูทราคาแพงได้มารอก่อนเวลา 5 ชั่วโมง ก่อนที่ซิลจะมาถึงแล้วไปเดทกันท่ามกลางสายตาของนักผจญภัยระดับหนึ่งของเฟรย่าแฟมิเลียที่จับตามองดูและพวกอาเมียร์ ลูนอร์และโคลเอ้ทั้ง 3 ที่แอบตามมาด้วยการลากริวมาด้วยอีกคน

เบลได้พาซิลไปยังถนนเดดาลัสที่เป็นย่านเสื่อมโทรมของเมืองที่มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ซิลเคยมาดูแลอยู่ พบพวกเด็กๆออกร้านขายเหล้า พวกเด็กๆได้ชวนซิลมาร่วมเต้นรำอย่างมีความสุข ก่อนที่จะออสเซี่ยน เด็กที่สถานเลี้ยงเด็กคนหนึ่งจะหกล้มร้องไห้ ซิลจึงเข้าไปปลอบออสเซี่ยนให้หายเจ็บด้วยความอ่อนโยน โดยไม่สนใจชุดของเธอจะเปื้อนเลือดหรือเศษดินหรือเปล่า เบลจึงยื่นมือไปหาซิลแล้วชวนเธอเต้นรำอย่างมีความสุขท่ามกลางเด็กๆที่หัวเราะอย่างสนุกสนาน

พวกเบลกับซิลกลับมาเดินเที่ยวอย่างมีความสุขในถนนสายหลักถึงกับป้อนลูกอมให้กันท่ามกลางการติดตามของอาเมียร์ที่กินขนมอย่างเอร็ดอร่อย โคลเอ้สาวโสดที่อิจฉาถึงกับกระอักเลือดออกมา ส่วนริวที่จ้องมองตาไม่กระพริบถูกกระตุ้นจนอายและไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็นถึงการเดทที่เหมือนคู่รักมากกว่าจะเป็นแบบเพื่อนอย่างที่คิด ทำเอาริวที่รับรู้ต้องยอมรับถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเบลอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้

ที่ร้านนายหญิงแห่งความอุดมสมบูรณ์เฮสเทียที่ทำจานแตกมากมายจึงเจอมีอา (เจ้าของร้าน) บ่น ลิลิรูก้าที่เห็นว่า "เฮสเทียอยู่ไปก็มีแต่จะสร้างงานเพิ่ม" จึงส่งสัญญาณให้เฮสเทียไปตามหาเบล ส่วนพวกตนที่เหลือจะทำงานแทนเอง ท่ามกลางมีอาที่ทำเป็นมองไม่เห็น

หลังทานข้าวเที่ยงที่ซิลทำมาในระหว่างที่เดินผ่านเสาที่เหล่าเทพธิดานั่งอยู่เพื่อให้ทุกคนอวยพร สายตาของเบลไปสบตากับเฟรย่า (เทพธิดาแห่งความงาม) เข้า ซิลที่เห็นจึงลากเขาเดินออกไปเที่ยวงานต่อ

เบลที่กำลังเดินเที่ยวกับซิลบังเอิญไปเจอยังอายส์ (เจ้าหญิงดาบ) จึงตกใจทำอะไรไม่ถูก ซิลที่ไม่รอช้ารีบเกาะแขนของเบลพร้อมทั้งบอกว่า "ทั้งสองกำลังเดทกัน" ทำเอาอายส์ที่ตกใจถึงกับรู้สึกไม่สบายใจและสับสนก่อนที่ซิลจะลากเบลหายไป พอเฮสเทียมาพบอายส์ที่ยืนงงทำอะไรไม่ถูกอยู่จึงลากอายส์ไปตามหาเบลที่กำลังเดทอยู่ด้วยอีกคน

ซิลที่ไม่อยากให้ทุกคนสะกดรอยตามจึงขอร้องเบลให้พาเธอหลบหนี เบลจึงไปร้านขายอุปกรณ์เวทมนต์ ซื้อยังผ้าคลุมล่องหนกับน้ำยาลบกลิ่นก่อนที่จะพาซิลหลบหนีจากทุกคนได้ แม้กระทั่งอายส์หรือพวกเผ่าสัตว์ (มีเพียงเฮดีนที่เห็น แต่แกล้งปล่อยไป) เบลจึงพาซิลไปยังวิหารภูติเซนต์ฟูลแลนด์ วีรบุรุษที่เล่าถึงตำนานความรักของวีรบุรุษกับภูติที่จบลงด้วยความเศร้า เพราะสุดท้ายวีรบุรุษได้แต่งงานกับนักบวชแทน ซิลชอบเครื่องประดับที่สามารถแยกกันออกเป็น 2 ชิ้นของภูติและอัศวินได้จึงขอให้เบลซื้อ ส่วนของภูติเธอจะติดไว้ที่ผมและส่วนของอัศวินจะกลัดไปที่เสื้อของเบล ก่อนที่จะไปทานอาหารที่ร้านสปูน อควาบนเรือสำราญ

เฮสเทียที่คาดกับเบลจึงกลับไปยังคฤหาสน์เตาไฟ (ฐานที่มั่นของเฮสเทียแฟมิเลีย) ทำให้เจอยังหมายกำหนดการของเบลแล้วจึงลากอายส์มาดักรอในร้านอาหารสปูน อควา ในขนาดที่พวกริว อาเมียร์ ลูนอร์และโคลเอ้ก็แอบตามทั้ง 2 ขึ้นมาในฐานะพนักงานเสิร์ฟ แต่ระหว่างทานอาหารนักผจญภัยของเฟรย่าแฟมิเลียกับบุกขึ้นมาหมายจัดการเบล เพื่อปกป้องซิล แต่อายส์กับพวกของริวที่เห็นเข้าจึงเข้าไปต่อสู้ขัดขวาง ซิลจึงฉวยโอกาสนี้พาเบลหนีด้วยการกระโดดลงไปในแม่น้ำ

เบลพาซิลขึ้นมาจากแม่น้ำในสภาพที่เปียกน้ำมาโผล่ที่สะพานวีรบุรุษที่มีรูปปั้นวีรบุรุษมากมาย ก่อนเดินไปยังรูปปั้นวีรบุรุษคนสุดท้ายที่สู้กับมังกรดำ มหาวีรบุรุษอัลเบิร์ทที่เขาสงสัยว่า "น่าจะเกี่ยวข้องกับอายส์" ซิลจึงพาเบลเข้าไปพักเหนื่อยและตากเสื้อผ้าที่เปียกในโรงแรม หลังจากที่อาบน้ำเสร็จซิลก็ชวนเบลนอน แต่ซิลได้กอดเบลจนทำให้เขาคิดที่จะเผลอใจมีอะไรด้วยอย่างลืมตัว แต่ไฮโรกลิฟที่สลักบนหลังของเขากับลุกไหม้คล้ายขัดขืนดึงสติกลับคืนมา ก่อนที่ทั้ง 2 จะนอนร่วมเตียงแต่ไม่มีอะไรกัน พอเบลตื่นขึ้นมาซิลก็ได้หายตัวไปแล้ว

เบลที่ไม่ได้กลับคฤหาสน์เตาไฟและหายไปทั้งคืนกับซิล ทำเอาเอสเทียถึงกับตกใจต้องรีบลากอายส์ไปหาเฮอร์เมส (เทพชาย) เพื่อสั่งให้แอสฟี่ (หัวหน้านักผจญภัยของเฮอร์เมสแฟมเลีย) ตามหา ทางด้านริวก็สติแตก เพราะซิลไม่กลับร้านทั้งคืนจนคิดถึงเรื่องที่ทั้ง 2 ได้ค้างคืนด้วยกัน ก่อนที่จะโดนพวกอาเมียร์ลากออกไปตามหา

เบลที่ตื่นขึ้นมาไม่พบซิลจึงออกตามหาเธอด้วยความเป็นห่วง เบลได้พบเวลฟ์ (ช่างทำอาวุธของเฮสเทียแฟมิเลีย) ที่ร้านนายหญิงแห่งความอุดมสมบูรณ์ จึงทราบว่า "ซิลยังไม่กลับมา" เวลฟ์จึงถามถึงความรู้สึกของเบลที่มีต่อซิล เพราะถึงตอนนี้คงแกล้งโง่ไม่ได้แล้วล่ะ เบลยังคงวิ่งตามหาต่อไปก่อนที่จะพบออตตาร์ (นักผจญภัยที่เก่งที่สุดในเมืองของเฟรย่าแฟมิเลีย) ได้ชี้บอก เบลจึงวิ่งไปตามทิศทางที่ออตตาร์ชี้จึงได้พบซิลนั่งอยู่ในย่านอุตสาหกรรม เบลจึงได้มอบเข็มกลัดที่ซิลลืมไว้ให้กับเธอ

แต่ระวังนั้นเองเฮกนี่ (ดาร์ชเอลฟ์) นักผจญภัยระดับ 1 ของเฟรย่าแฟมิเลียได้เข้ามาโจมตีหมายจะสังหารซิล เบลจึงได้แต่เข้ามารับดาบอีกฝ่าย ทำเอาเฮกนี่ต้องต่อสู้อย่างลำบาก เพราะไม่สามารถทำร้ายเขาได้ พวกของริวได้มาถึงพอดี ริวจึงได้รับมือกับเฮกนี่แทน โดยให้เบลพาซิลหนีไป แต่ 4 พี่น้องกัลลิเวอร์ก็ได้มาขวางไว้ พวกอาเมียร์ ลูนอร์และโคลเอ้ทั้ง 3 จึงเข้ามาต่อสู้ แต่พวกของริว ลูนอร์และโคลเอ้กับต้องพ่ายแพ้ล้มลง มีเพียงอาเมียร์ที่ไม่ยอมแพ้ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับอัลเลน พี่ชายของเธอจนอาเมียร์ต้องหลีกทางให้

เบลที่วิ่งมาพบพวกของเฮสเทียที่มาตามหา เบลจึงขอให้อายส์กับแอสฟี่เข้าไปช่วยถ่วงเวลานักผจญภัยของเฟรย่าแฟมิเลียไว้ก่อนที่จะพาซิลวิ่งหนีไป เฮสเทียจึงถามเฮอร์เมสถึงตัวตนของซิลแท้จริงเป็นใคร เป็นเทพธิดาหรือเปล่า

เบลพาซิลวิ่งหนีไปจนเหลืออยู่กันแค่ตามลำพัง ซิลจึงเข้ามากอดเบล เบลจึงได้ถามว่า "เธอเป็นใคร" พร้อมทั้งกันยังมีดสั้นที่ซิลจะแทงเขา ซิลจึงถามออกมาว่า "เบลรู้ได้อย่างไง" เขาจึงตอบว่า "เขาได้ยินเสียงอาวุธในกระเป๋าของซิลและแน่ใจเมื่อมอบเข็มกลัดให้ เพราะเข็มกลัดนั้นมันเป็นเข็มกลัดอัศวินของเขา" (แต่เบลยังเลือกที่จะปกป้องแม้รู้ว่า "เป็นซิลตัวปลอม")ซิลจึงยอมรับความพ่ายแพ้พร้อมทั้งบอกถึงที่อยู่ของซิลตัวจริงให้กับเบล ทั้งยังทำให้เบลทราบว่า "เธอและซิลมีความทรงจำและความรู้สึกร่วมกัน" ส่วนเธอที่ปลอมตัวมาหมายลอบสังหารเบลในวันที่ 2 ได้แพ้พนันกับเทพธิดาแล้วจึงต้องหยุดมือ

เมื่อเบลจากไป พวกเฮกนี่ได้มาถึงพร้อมทั้งต่อว่าซิลตัวปลอมที่คิดสังหารเบลที่เป็นของเทพธิดา ซึ่งซิลตัวปลอมที่โดนเฮกนี่ทำร้ายบาดเจ็บได้เผยร่างที่แท้จริงออกมาคือเฮลุน พร้อมทั้งบอกว่า "เธอไม่ยอมให้เทพธิดาต้องตกต่ำเป็นเด็กสาวธรรมดาอย่างเด็ดขาด" เฮกนี่จึงด่าเธอว่า "พวกคลั่งเทพ" แต่เฮลุนที่หัวเราะได้บอกว่า "เรื่องราวของเด็กสาวได้จบลงแล้ว"

เมื่อเบลได้ไปพบยังซิลที่รออยู่โดยมีเฮดินเป็นผู้พิทักษ์ก่อนที่เขาจะหายไปพอเบลมาถึง ซิลได้ก้าวเข้ามาหาเบลพร้อมทั้งบอกว่า "ชอบเขา" เบลจึงตอบไปว่า "ขอโทษครับ"



ท่ามกลางสายฝนที่ตกใส่ร่างของซิลที่อยู่คนเดียว ซิลได้ร้องเรียกให้ออตตาร์ปรากฏตัวออกมา ซิลได้ดึงผ้าผูกผมออก เผยรัศมีแห่งเทพออกมาพร้อมทั้งสั่งออกไปว่า "เตรียมตัวซะ จะไปชิงตัวเด็กคนนั้น" เวลาของเด็กสาวได้จบลงแล้วพร้อมทั้งคำกล่าว "ไม่มอบให้ใครทั้งนั้น เบล จะทำให้เธอเป็นของฉัน"



ปล.ในอดีตมีเด็กสาวจากย่านอุตสาหกรรมชื่อซิลได้พบเทพธิดาจึงขอพรจากเทพธิดาให้ตัวเธอได้เป็นเทพธิดา ซึ่งเทพธิดาก็ได้มอบพรให้กับเธอเป็นเทพธิดา แต่ขอแลกกับชื่อของเด็กสาวมาคือ "ซิล"