(สปอย์) เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว เล่ม 15






(สปอย์) เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว เล่ม 15

ในขณะที่ริมุรุ (พระเอก/สไลม์) และเหล่าผู้บริหารระดับสูงของเทมเพสต์ (เมืองของพระเอก) ที่ได้วางแผนเพื่อจะเจรจาถ่วงเวลากับจักรวรรดิตะวันออกลูโดร่า พวกของริมุรุกลับถูกขังอยู่ในมิติกักขังของเวลกรินด์ (มังกรเพลิงโชติช่วง/จอมพลของจักรวรรดิ/พี่สาวของเวลโดร่า) ก่อนที่ริมุรุจะรับรู้ได้ถึงการเชื่อมโยงจากเฉลียงทางเดินแห่งวิญญาณกับเวลโดร่าจะสลายไป สร้างความโกรธแค้นให้กับริมุรุเป็นอย่างยิ่ง

เวลกรินด์ที่นำกองกำลังของจักรวรรดิตะวันออกบุกโจมตียังประเทศยุทธภัณฑ์ดวาฟของเหล่าคนแคระและใช้สกิลตัวตนคู่ขนานแบ่งอีกร่างไปโจมตียังเทมเพสต์ในเวลาเดียวกัน (เป็นตัวจริงทั้งคู่) จึงทำให้กาเซล (ราชาคนแคระ) ต้องนำกองทัพเพกาซัสไนท์ออกรับมือ โดยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยคิริว (มังกรบิน) ที่นำโดยกาบิล (ดรากอนลอร์ด) และพวกเทสทารอสซ่า (เดม่อนลอร์ด/ปีศาจแห่งจุดเริ่มต้นสีขาว) อัตติม่า (เดม่อนลอร์ด/ปีศาจแห่งจุดเริ่มต้นสีม่วง) และคาเรร่า (เดม่อนลอร์ด/ปีศาจแห่งจุดเริ่มต้นสีเหลือง) เข้ามาช่วยเหลือ

ทางด้านเทมเพสต์ เวลโดร่า (มังกรวายุคลั่ง) ก็ต้องออกมารับมือยังเวลกรินด์พี่สาวของตนเอง กาเซลต้องรับมือกับร้อยโทคนโด (หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองของจักรวรรดิ) ที่ทั้ง 2 ต่างใช้วิชาดาบที่มาจากสำนักเดียวกัน แต่วิชาดาบของคนโดกลับเหนือกว่า จึงทำให้กาเซลสู้ไม่ได้ ฮาคุโร (โอเกอร์) ที่เป็นอาจารย์และถ่ายทอดวิชาดาบให้กาเซลจึงออกมารับมือแทน

ฮาคุโรใช้วิชาลับ "ซากุระซ้อน ลำแสงแปดบุปผา" ที่โจมตีถึง 8 ครั้งรับมือกับดอกบ๊วย ห้ากลีบสะบั้นของคนโด แต่ถึงแม้เพลงดาบจะเหนือกว่าแต่พลังทำลายต่ำกว่าจึงทำให้แขนทั้งสองข้างของฮาคุโรเสียหายไม่สามารถต่อสู้ได้อีก แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นการถ่ายทอดเพลงดาบนี้ให้กับกาเซล เพื่อที่จะให้ต่อสู้กับคนโดอีกครั้ง กาเซลจึงใช้ยูนีคสกิล "ผู้อยู่เหนือปวงชน" กับเพลงดาบที่เห็นมาเพื่อจะเข้าต่อสู้กับคนโดอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้คนโดกับใช้ปืนยิงกาเซลจนได้รับบาดเจ็บแทนการประลองดาบ เพราะเขายึดถือผลชัยชนะเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า (อาเกร่าสมัยเป็นมนุษย์มีน้องชายเป็นอาจารย์สอนวิชาดาบให้กับคนโด เมื่ออาเกร่ามาต่างโลกแล้วแต่งงาน ได้สอนวิชาดาบให้กับฮาคุโรก่อนตายมาเกิดใหม่เป็นปีศาจอีกที)

ส่วนด้านพวกของเทสทารอสซ่าทั้ง 3 ที่รับมือกับเวลกรินด์ต้องพ่ายแพ้ต่อเวลกรินด์อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่เวลกรินด์คาดไม่ถึงก็คือ "ร่างอื่นที่เธอส่งไปสู้กับเวลโดร่า" กลับไม่สามารถเอาชนะเวลโดร่าที่มีอันติเมทสกิล "เฟาสต์ (ราชันย์แห่งความถ่องแท้)" ได้ เธอจึงต้องใช้เวท "เชื่อมโยงปริภูมิเวลา" ย้ายกองเรือเหาะของกองพลสัตว์อสูรมาโจมตียังประเทศยุทธภัณฑ์แทน ส่วนตัวเวลกรินด์ คนโดและจักรพรรดิลูโดร่าจึงย้ายไปยังเทมเพสต์ เพื่อจัดการกับเวลโดร่าแทน

ทั้งเวลกรินด์และเวลโดร่าต่างคืนร่างเป็นมังกรยักษ์เข้าต่อสู้กันอย่างสูสี จนเปิดโอกาสให้คนโดใช้ปืนยิงกระสุนที่มีสกิล "จัดจ์เมนต์ (กระสุนประหารเทพ)" ใส่เวลโดร่าได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ลูโดร่าจะใช้สกิลมิคาเอล (ราชันแห่งจิตวิญญาณ) บงการเวลโดร่า แต่ก่อนที่สติของเวลโดร่าจะเลือนหายไป เวลโดร่าได้ทำลายเฉลียงทางเดินแห่งวิญญาณกับริมุรุ เพื่อป้องกันไม่ให้ริมุรุโดนบงการไปด้วย

ริมุรุที่ใช้ราฟาเอล (ราชันแห่งภูมิปัญญา) คำนวนจนสามารถออกมาจากมิติกักขังของเวลกรินด์ได้สำเร็จ จึงรีบมุ่งหน้าไปยังเทมเพสต์กับเหล่าผู้บริหารทันที พร้อมทั้งเรียกพวกเทสทารอสซ่า อัลติม่าและคาเรร่ามามอบดวงวิญญาณให้กับทั้ง 3 ทำให้พวกเธอได้ลืมตาตื่นขึ้นมากลายเป็นเดวิลลอร์ด (ราชันเทพมาร) ทำให้เหล่าปีศาจใต้อาณัติของพวกเธอมีการเลื่อนขั้นและมีพลังเพิ่มขึ้นและยังสั่งให้ทุกคนขยี้ฝ่ายตรงข้ามให้แหลก และต้องมีชีวิตรอดกลับมา ก่อนที่ริมุรุจะพุ่งเข้าไปต่อสู้กับเวลกรินด์และเวลโดร่า

ด้านประเทศยุทธภัณฑ์ พวกของกาบิลและกาเซลที่ได้รับบาดเจ็บกับต้องต่อสู้อย่างยากลำบากก่อนที่มิลิม (จอมมารมังกร) จะส่งยังคาริออน (อดีตจอมมารสรรพสัตว์) กับเฟรย์ (อดีตจอมมารนภา) มาช่วย ซึ่งคาริออนได้พบกับกราดิม แม่ทัพกองทัพสัตว์อสูรที่เป็นพี่ชายตน กราดิมมีพลังเหนือกว่าทำให้คาริออนไม่สามารถสู้ได้ แต่ในระหว่างต่อสู้กราดิมที่สั่งให้ลูกน้องตายไปมากมายเพื่อชัยชนะได้รับดวงวิญญาณมากมายนั้นรู้สึกง่วงนอน เพราะการลืมตาตื่นในฐานะจอมมาร จึงโดนคาริออนจัดการไป

แต่คาริออนก็ต้องง่วงและนอนหลับไปการสนามรบ เพราะเมื่อฆ่ากราดิมได้ เขาก็กำลังจะลืมตาตื่นในฐานะจอมมารแทน ด้านเฟรย์ที่จัดการนาซินพี่สาวฝาแฝดของตนได้ก็กำลังจะลืมตาตื่นเช่นเดียวกัน จึงทำให้กาบิลต้องรับหน้าที่เฝ้าพิทักษ์ทั้ง 2 คนไว้ แต่เวก้า (ลูกน้องยูคิ) เห็นถึงพลังของคาริออนและเฟรย์จึงคิดจะกินทั้ง 2 จึงทำให้กาบิลที่บาดเจ็บต้องเข้าต่อสู้ เพื่อปกป้องทั้ง 2

ริมุรุต่อสู้กับเวลกรินด์และเวลโดร่า เขาได้ตั้งชื่อให้กับราฟาเอลว่า "ชิเอล" ทำให้ชิเอลพัฒนากลายเป็น "มานัส (แก่นเทววิญญาณ)" ขึ้น ชิเอลจึงรับหน้าที่จัดการกับเวลกรินด์ ทำให้การโจมตีต่างๆของเวลกรินด์ไม่สามารถโจมตีโดนหรือทำอะไรริมุรุได้ ทั้งชิเอลยังขังเวลกรินด์ไว้ในมิติเลขสมมุติเป็นเวลาราว 200 วินาที เป็นการถ่วงเวลาเพื่อให้ริมุรุสามารถสู้กับเวลโดร่าได้อย่างเต็มที่

กาบิลที่ยืนหยัดต่อสู้กับเวก้าทั้งที่บาดเจ็บจึงได้ยินเสียงของชิเอลได้มอบยูนีคสกิล "ผู้วุ่นวาย" ให้ ส่วนกาโดร่าที่ตายในการต่อสู้ก็คืนชีพขึ้นมาในฐานะเมทัลเดม่อนเป็นลูกน้องของดีอาโบล (ดีวิลลอร์ด/ปีศาจแห่งจุดเริ่มต้นสีดำ) และได้รับสกิล "กีมัวร์" แต่ก่อนที่จะสู้กัน ลาพลัส (สมาพันธ์ตัวตลกสายกลาง/ลูกน้องยูคิ) ได้มาห้ามเวก้าไว้

ริมุรุที่ต่อสู้กับเวลโดร่าได้เชื่อมต่อเฉลียงทางเดินแห่งวิญญาณกับเวลโดร่าอีกครั้ง จึงทราบว่า "จิตใจของเวลโดร่ายังอยู่ แต่มีเพียงร่างกายเท่านั้นที่โดนควบคุม" ชิเอลจึงเสนอให้ใช้สกิล "ล่าเหยื่อของเบลเซบิวธ์ (ราชันย์แห่งความตะกละ)" กินร่างของเวลโดร่าเข้าไป แล้วทำการแยกวิญญาณสร้างร่างใหม่ออกมาอีกครั้ง ซึ่งริมุรุก็ได้ใช้เบลเซบิวธ์กินเวลโดร่าเข้าไปทันที

เวลกรินด์ที่เห็นเวลโดร่าโดนกินเข้าไป จึงเข้าใจว่าน้องชายตายไปแล้วสร้างความโกรธแค้นให้กับเธอจนทลายมิติเลขสมมุติออกมาเข้าต่อสู้กับริมุรุอีกครั้ง ที่เรือเหาะของลูโดร่าโดนบุกโจมตีด้วยพวกของเหล่าผู้บริหารที่นำโดยเบนิมารุ (เฟรมลอร์ด/คิชิน/ยักษ์วิญญาณเพลิง) ได้เข้าไปหมายจะจัดการกับลูโดร่า แต่ร่างอื่นของเวลกรินด์ที่พิทักษ์ลูโดร่าจึงสร้างประตูขึ้นมา 8 บานขวางเบื้องหน้าลูโดร่าไว้ จึงทำให้ทุกคนต้องแยกกันออกไปจัดการกับเหล่าอิมพีเรียลการ์ดที่เฝ้าประตูต่างไปทันที

ชิออน (โอนิ/ยักษ์มาร/เลขาริมุรุ) ก้าวเข้าไปในประตูบานแรก เบนิมารุจึงสั่งให้อาเกร่า (ปีศาจระดับมาร์ควิสลูกน้องคาเรร่า/ที่เป็นตาของฮาคุโรที่เกิดใหม่เป็นปีศาจ) เอสพรี (ปีศาจสาวระดับเคานต์ลูกน้องคาเรร่า) กับซอนด้า (ปีศาจระดับไวเคานต์ลูกน้องอัลติม่า) เข้าประตูบานที่ 2 พบกับการ์เซีย ดับเบิ้ลโอนัมเบอร์หมายเลข 5 ที่พูดจาดูถูก จนกระทั่งอาเกร่าที่ได้ยินเสียงของชิเอลมอบอัลติเมทกิฟต์ "กลายเป็นดาบ" ให้เอสพรีใช้เพลงดาบซากุระซ้อน ลำแสงแปดบุปผาจนสามารถเอาชนะได้ เอสพรียังชิงดวงวิญญาณการ์เซียมาให้อัลติม่าทรมานที่พูดจาดูถูกทุกคนและริมุรุด้วย

ด้านชิออนที่เผชิญกับมินาซ่า ดับเบิ้ลโอนัมเบอร์หมายเลข 6 ที่เป็นอินเซ็กเตอร์ (มนุษย์มารแมลง) จากต่างโลก ที่บุกเข้ามาหมายจะยึดครองโลกนี้ แม้ชิออนจะจัดการพวกแมลงไปมากมายก็ยังไม่หมด สุดท้ายได้ยินเสียงของชิเอล จนได้กลายเป็นยักษ์จิตวิญญาณศึกและโอดาจิ (ดาบของชิออน) ได้กลายเป็นชินโกริคิมารุ (เทพผู้มีกำลังช้างสาร) ชิออนได้ใช้เคออติกเฟท (พลิกชะตาพันเป็นตาย) จัดการมินาซ่าราชินีแมลงลงไปได้

ด้านเวย์ลอน (ปีศาจ/พ่อบ้านของอัลติม่า) ที่สู้กับมาร์โก้ (รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง) ที่แปลงร่างเป็นคนโดใช้วิชาดาบเข้าต่อสู้ เวย์ลอนที่ได้ยินเสียงของชิเอลทำให้ได้อันติเมทกิฟต์ "อาร์ตทิส (ยอดนักประพันธ์ลวง)" สร้างดาบที่เลียนแบบอาเกร่าใช้ซากุระซ้อน ลำแสงแปดบุปผา ตัดแขนทั้ง 2 ของมาร์โก้ที่ใช้ดอกบ๊วย ห้ากลีบสะบั้นได้ โซเฮย์ (โอเกอร์) ที่สู้กับการ์ดเนอร์ ดับเบิ้ลโอนัมเบอร์หมายเลข 4 ซึ่งโซเฮย์ก็สามารถจัดการสังหารอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แต่การ์ดเนอร์กับมีสกิลตัวตนคู่ขนาน (แต่มีร่างอื่นแค่ร่างเดียว) จึงรอดตายจากการสังหารได้

โซเฮย์ที่ได้ยินเสียงของชิเอลจึงได้อัลติเมทกิฟต์ "สึคุโยมิ (ราชันย์แห่งเงาจันทรา)" ใช้ปลิดชีพในหนึ่งคราสังหารการ์ดเนอร์ได้ ด้านอัลติม่าที่เจอกับดัมราด้า ดับเบิ้ลโอนัมเบอร์หมายเลข 2 และสหายของลูโดร่า ทั้ง 2 ต่อสู้ด้วยเวทมนต์ ซึ่งอัลติม่าค่อยๆเรียนรู้การใช้เวทมนต์จากอีกฝ่าย จนได้ยินเสียงของชิเอล ทำให้ได้อัลติเมทสกิล "ซามาเอล (ราชันแห่งมรณะพิษ)" แต่อัลติม่ากับไม่คิดใช้ เธอต่อสู้ไปเรื่อยๆ เลียนแบบยังไม้ตายสังหารลับสุดยอดของดัมราด้า หมัดทำลายศักดิ์สิทธิ์ อัลติม่าได้ใช้ซามาเอลสร้างยังบลัดดี้ไบต์ (มือมรณะอสรพิษแดง) สังหารอีกฝ่าย

ก่อนตายดัมราด้าจึงรู้สึกตัวว่า "โดนสกิลมิคาเอลของลูโดร่าบงการ" เขาที่นึกถึงคำสัญญาที่ลูโดร่าเคยขอไว้ว่า "ถ้าตนไม่ใช่ลูโดร่าอีก ขอให้อีกฝ่ายสังหารตน" ดัมราด้าจึงมอบความรู้ของตนแลกเปลี่ยนกับให้อัลติม่าช่วยสังหารลูโดร่าให้ที ด้านคาเรร่าได้เผชิญกับคนโด แต่ก็ไม่สามารถสู้ได้ก่อนที่จะได้ยินเสียงของชิเอลมอบอัลติเมทสกิล "อาบัดดอน (ราชันแห่งมรณะวินาศ)" คาเรร่าจึงจับอาเกร่าที่กลายเป็นดาบขึ้นต่อสู้อีกครั้ง คนโดจึงใช้เพลงดาบที่พึ่งเห็นจากการต่อสู้ครั้งก่อนคือซากุระซ้อน ลำแสงแปดบุปผาเข้าใส่คาเรร่า แต่คาเรร่ากับใช้ดาบที่ผ่านประสบการณ์ของอาเกร่าฟันคมดาบนับร้อยออกไปนาม "สายหมอก ร้อยบุปผาโปรยปราย" จนสามารถเอาชนะคนโดได้

คนโดที่รู้ว่า "โดนมิคาเอลของลูโดร่าบงการ" และจำคำขอของลูโดร่าได้ จึงขอให้คาเรร่าช่วยสังหารลูโดร่าให้ที ส่วนคนโดก็ได้มอบปืนของตนให้คาเรร่าเป็นการตอบแทน ดวงวิญญาณของเขาก็หลั่งไหลเข้าไปในปืนกระบอกนั้น ทำให้คาเรร่าเหมือนได้ยินเสียงของคนโดและสามารถใช้สกิลของคนโดได้ เบนิมารุได้สู้กับกรานีต ดับเบิ้ลโอนัมเบอร์หมายเลข 3 หัวหน้าของอิมพีเรียลการ์ด แต่เบนิมารุที่มีอัลติเมทสกิล "อามาเทราสุ (ราชันเพลิงตะวัน)" จนสามารถสังหารอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย ร่างอื่นของเวลกรินด์ที่เหลืออยู่ (มีพลัง เหลืออยู่ 20%) ต้องเผชิญหน้ากับเทสทารอสซ่าที่มีอัลติเมทสกิล "เบเลียน (ราชันปรภพ)" ถ่วงเวลาก่อนที่พวกเบนิมารุและทุกคนจะปรากฏตัวมา

ด้านริมุรุ ชิเอลได้ทำการวิเคราะห์เวลกรินด์เสร็จสมบูรณ์ จึงเสนอให้ใช้เบลเซบิวธ์กินเวลกรินด์เข้าไปทำให้เวลกรินด์พบกับเวลโดร่าในมิติเลขสมมุติอีกครั้ง ชิเอลได้วิเคราะห์พบว่า "เวลกรินด์น่าจะโดนสกิลมิคาเอลของลูโดร่าบงการอยู่เช่นกัน"

ซึ่งเวลกรินด์ที่เห็นถึงร่างอื่นของตนที่อยู่กับลูโดร่า น่าจะโดนลูโดร่าบงการจริงๆ จึงเห็นด้วย เวลกรินด์จึงให้ชิเอลช่วยสร้างร่างให้กับเธอด้วยอีกคน ทั้งยังรวมสกิลอุริเอล (ราชันย์แห่งการปกป้อง) กับรากุเอล (ราชันแห่งเปลวเพลิง) ให้กลายเป็นอัลติเมทสกิล "คธูกา (ราชันเทพเพลิง)" มอบให้เวลกรินด์ในขนาดเดียวกันพลังของริมุรุก็เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นตระกูลมังกร ทั้งยังได้ทราบจากเวลกรินด์ว่า "สกิลมิคาเอลแท้จริงเป็นของมังกรดวงดาวเวลดานาวา (พี่ชายคนโตของตระกูลมังกร/พ่อของมิลิน) ที่แลกกับสกิลอุริเอลของลูโดร่า"

ซึ่งในตอนนี้มิคาเอลได้าทำการยึดร่างของลูโดร่าที่ผ่านการคืนชีพหลายครั้ง จนวิญญาณค่อยๆจางหายไป เพื่อคืนชีพให้กับเวลดานาวา เวลกรินด์ที่ได้ร่างและสกิลใหม่จึงออกจากการต่อสู้ เพื่อมุ่งหน้าไปโลกต่างๆ เพื่อตามหายังเศษเสี้ยวดวงวิญญาณของลูโดร่าที่เธอรัก เมื่อริมุรุไปรวมตัวกับทุกคนที่เบื้องหน้าของลูโดร่ากับพบยังเฟสโดเวย์ (ราชาอสูรภูติ) ที่แม้ดิอาโบลไม่สามารถเอาชนะได้เหลืออยู่ข้างลูโดร่าเป็นคนสุดท้ายได้ ก่อนที่ลูโดร่าที่โดนมิคาเอลช่วงชิงร่างไปจะดูดกลืนร่างอื่นของเวลกรินด์เข้าไปจนมีพลังเพิ่มขึ้นแล้วทั้ง 2 ถอยทัพหายตัวไป